ช็อกกันหมด จู่ๆ เจ้าสาวเปลี่ยนใจไม่แต่ง บอกเหตุผลออกไมค์ชัดๆ เจ้าบ่าวฟังแล้วยืนค้าง

งานแต่งจบไว! เพราะจู่ๆ เจ้าสาวเปลี่ยนใจไม่แต่ง บอกเหตุผลออกไมค์ชัดๆ กลางเวที ก่อนยกกระโปรงวิ่งออกจากงาน เจ้าบ่าวฟังแล้วยืนค้างใจสลาย แขกช็อกกันหมด

งานแต่งงานถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญในชีวิต ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ความรักของคู่รักที่กำลังบรรลุผลเท่านั้น แต่ยังเป็นพิธีกรรมที่สำคัญสำหรับทั้งสองครอบครัวในการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในไต้หวัน จู่ๆ เจ้าสาวก็ประกาศขอยกเลิกงานแต่งกลางเวที ทำให้เจ้าบ่าวและแขกพากันตกตะลึง

ตามคลิปที่แชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กพบว่า งานแต่งงานจัดขึ้นในโรงแรมที่ค่อนข้างหรูหราและสง่างาม เจ้าสาวและเจ้าบ่าวยืนบนเวทีด้วยกันเพื่อให้คำปฏิญาณตนว่าจะอยู่ด้วยกันไปจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต ด้านล่างมีแขกจำนวนมากนั่งเพื่อรับชมฉากแสนโรแมนติด

“ชีวิตของผมมีความสุขมากเพราะมีคุณ ขอบคุณที่แต่งงานกับผม ผมรักคุณ” เจ้าบ่าวให้คำมั่นสัญญากับภรรยาของเขา

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อต้องเผชิญกับคำพูดแสนหวานของเจ้าบ่าว เจ้าสาวกลับแสดงท่าทีดูเฉื่อยชา และหยิบไมค์ขึ้นมาพูดว่า "จริงๆ แล้วฉันก็รักคุณเหมือนกัน แต่พอฉันสวมชุดแต่งงาน เมื่อเดินเข้ามาในห้องโถงจัดงานพร้อมกับคุณ ฉันลังเลนิดหน่อย รู้สึกว่าเราเข้ากันไม่ได้ ขอโทษ... ฉันแต่งงานกับคุณไม่ได้”

ทันทีที่เจ้าสาวพูดจบก็ยื่นไมค์ให้พิธีกรที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทิ้งดอกไม้งานแต่งงานไว้ข้างหลัง แล้วจับกระโปรงขึ้นมาเพื่อวิ่งออกไปนอกห้องโถง ท่ามกลางความประหลาดใจของเจ้าบ่าวและแขกจำนวนมากที่มาร่วมงาน

หลังจากช็อกไปไม่กี่วินาที เจ้าบ่าวก็รีบหยิบช่อดอกไม้ขึ้นมาแล้ววิ่งไล่ตามเจ้าสาว เขาต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันนี้ แขกในห้องโถงก็เริ่มส่งเสียงดังวุ่นวายเพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ตามรายงานยังระบุด้วยว่า ในท้ายที่สุดแล้วงานแต่งงานครั้งนี้ก็ต้องถูกยกเลิก แต่ไม่ชัดเจนว่าสาเหตุที่แท้จริงเบื้องหลังคืออะไร และแน่นอนว่าเรื่องราวนี้ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจากชุมชนออนไลน์ คนส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจและวิพากษ์วิจารณ์การกระทำที่สับสนของเจ้าสาว

“เสียใจก็ได้ แต่อย่างน้อยคุณควรเคารพเจ้าบ่าว และเหลือศักดิ์ศรีไว้ให้เขาบ้าง เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่ต่อหน้าคนมากมายและทำเป็นเรื่องตลกแบบนั้น ที่คุณทำมันมากเกินไปจริงๆ”

“ผู้หญิงคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกในหนังโรแมนติกหรือเปล่า คงคิดว่าการที่เธอวิ่งออกจากห้องโถงแบบนั้นช่างสวยงามและเท่มาก”

“ตั้งแต่วินาทีแห่งความรักจนถึงวันแต่งงานมีช่วงเวลาที่ยาวนาน นอกจากนี้ยังมีโอกาสมากมายที่จะปฏิเสธหากรู้สึกว่าไม่เหมาะสมกัน แต่เธอกลับเลือกเวลาที่ไม่เหมาะสมที่สุด ฉันหละชื่นชมเธอจริงๆ”

“ฉันสนใจแค่ว่าในกรณีนี้ ครอบครัวของเจ้าสาวเป็นผู้รับผิดชอบความสูญเสียทั้งหมดใช่ไหม ทุกคนรู้ดีว่าต้องใช้ความพยายามและเงินมากขนาดไหนในการจัดงานแต่งงาน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์กับแขกที่เชิญมาร่วมงาน”