แม่นักเรียนถูกยิงร่ำไห้ เผยลูกเรียนดี เป็นเด็กทุน จากนี้ยังไม่รู้ ลูกจะตื่นมาคุยกับแม่ได้อีกหรือไม่

แม่นักเรียนถูกยิงร่ำไห้ เผยลูกเรียนดี เป็นเด็กทุน จากนี้ยังไม่รู้ ลูกจะตื่นมาคุยกับแม่ได้อีกหรือไม่

แม่นักเรียนถูกยิงร่ำไห้ เผยลูกเรียนดี เป็นเด็กทุน จากนี้ยังไม่รู้ ลูกจะตื่นมาคุยกับแม่ได้อีกหรือไม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณีนักเรียนคู่อริใช้อาวุธปืนยิงใส่นักศึกษาต่างสถาบันของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บ โดยหนึ่งในนั้น เป็นคุณครูสาว สอนวิชาคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ที่เดินผ่านมา กำลังจะกดเงินที่ธนาคาร กระสุนลูกหลงเข้าที่กลางหน้าผาก แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนักเรียนชายได้รับบาดเจ็บสาหัส

ต่อมา ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ น.ส.พรพิมล (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี มารดาของ นายธนสรณ์ ผู้บาดเจ็บจากการถูกคู่อริยิง เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเปิดด้วยเสียงสั่นเครือ และอยู่ในอาการเสียใจ ว่า ขณะนี้บุตรชายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬา โดยหมอได้ผ่าตัดรักษาแล้ว แต่ตนไม่รู้ว่าลูกชายจะฟื้นขึ้นมาหรือไม่

ทั้งนี้ลูกชายคนนี้เป็นคนโต เป็นที่ขยันเรียน ตั้งแต่สมัยอนุบาล เกรดเฉลี่ย 3.70-3.80 ตลอด จนมาได้โควต้า ทุนเรียนดีของมหาวิทยาลัยแห่งนี้

กระทั่งเมื่อช่วงเช้าลูกชายบอกว่าวันนี้ไม่มีเรียน แต่จะเดินทางไปทำซุ้มรับปริญญาให้รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย ซึ่งทุกวันเพื่อนจะขับรถจักรยานยนต์มารับที่บ้านเนื่องจากตัวบ้านอยู่ในซอยลึก จากนั้นก็ไปจอดรถไว้ที่ห้างสรรพสินค้า จากนั้นนั่งรถเมล์ไปที่มหาวิทยาลัย ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยเล่าถึงปัญหา หรือ ไปมีเรื่องมีราวกับใคร เพราะลูกชายเป็นเด็กตั้งใจเรียน ไม่เคยทะเลาะกับคนอื่น เป็นที่รักของเพื่อนและพี่ๆในมหาวิทยาลัย

ลูกชายคนนี้ถือเป็นความหวังของครอบครัว เพราะเคยพูดกับแม่ว่า "ถ้าหากหนูเรียนจบ หนูจะได้มีอนาคต มีเงินเยอะๆ แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย"

จากการที่ตนเข้าไปดูอาการของลูกชาย ทราบว่าถูกยิงที่บริเวณลำคอ และ ขา ซึ่งหมอได้ผ่าตัดที่บริเวณลำคอไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ได้สติ ต้องคอยดูอาการอย่างใกล้ชิด เป็นตายเท่ากัน และไม่รู้จะฟื้นขึ้นมาคุยกับตนได้อีกหรือไม่

"ตนอยากถามผู้ก่อเหตุว่า ลูกชายตนไปทำอะไรให้ ทำไมไม่ต่างคนต่างเรียนเพื่ออนาคต และการกระทำนี้ก็อุกกอาจอย่างมาก เพราะลงมือในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ส่วนที่หนึ่งในคนร้ายบอกว่า "ยิงให้ตาย" นั้น ตนอยากถามว่าคิดได้อย่างไร ไม่ใช่ญาติเขา ก็ไม่เข้าใจ ลูกตนไม่เคยไปวิ่งไล่ตีกับคนอื่นบนท้องถนน แต่ครั้งนี้เขารอรถเพื่อจะไปโรงเรียน ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เหมือนกับคุณครูที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเช่นกัน" น.ส.พรพิมล กล่าวทั้งน้ำตา

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook