ตั้งค่าหัว 1 แสนบาทล่าตัวการฆ่าเสือห้วยขาแข้ง
กรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้ค่าหัว 100,000 บาท สำหรับผู้แจ้งเบาะแสพรานป่าวางยาฆ่าเสือโคร่ง 3 แม่ลูกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ส่วนจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบ คนร้ายใช้ยาฆ่าแมลงในปริมาณมาก ทำให้เสือตายอย่างทุรนทุรายใน 2-3 ชั่วโมง
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้ตั้งรางวัลนำจับ หรือผู้ชี้เบาะแสพรานป่าที่วางยาฆ่าเสือ 3 แม่ลูกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 100,000 บาท โดยให้แจ้งมาที่สายด่วน 1362 ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่า เป็นชาวไทยภูเขา เนื่องจากก่อนหน้าจะพบซากเสือ เจ้าหน้าที่วิจัยเสือนางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งซึ่งไม่มีอาวุธประจำกาย ได้พบพรานกลุ่มนี้กลางป่ามาก่อน แต่เจ้าหน้าที่ได้ถูกพรานป่าซึ่งมีอาวุธครบมือข่มขู่ จึงได้แจ้งความไว้ และคาดว่าจะเป็นการกระทำของพรานกลุ่มนี้ จึงให้สเกตช์หน้าคนร้ายไว้แล้ว
ด้าน นสพ.ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า พรานได้ใช้สารฆ่าแมลงในกลุ่มคาร์บาเนต ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านเคมีการเกษตรได้ง่าย ใส่ไว้ในเหยื่อซากเก้งให้เสือกิน ทำให้เสือตายในเวลา 2-3 ชั่วโมง โดยก่อนตายเสือมีอาการดิ้นอย่างทุรนทุรายมาก สังเกตจากรอบ ๆ บริเวณที่พบซากเสือ ต้นไม้ฉีกขาดกระจัดกระจายเป็นวงกว้าง
ส่วนนายชัชวาลย์ พิศดำขำ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า การวางยาด้วยยาพิษแบบนี้ เคยเกิดเมื่อ 15 ปีที่แล้ว แต่ครั้งนั้นฝูงแร้งได้ตกเป็นเหยื่อ จนทำให้แร้งในห้วยขาแข้งสูญหายไป อย่างไรก็ตาม การวางยาเสือโดยใช้เก้งเป็นเหยื่อในครั้งนี้ ปกติเสือจะเป็นผู้ล่าสัตว์มีชีวิต แต่เสืออาจจะอยู่ในสภาพอดอยาก จึงยอมกินเหยื่อตายที่นายพรานล่าไว้ก็อาจเป็นได้