อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต ท้าสาธารณสุขมาพิสูจน์การรักษา ใช้เท้าถีบผู้ป่วยอาการดีขึ้นจริง
อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต ท้าสาธารณสุขมาพิสูจน์การรักษาได้ ใช้เท้าถีบผู้ป่วยอาการดีขึ้นจริง เผยสาเหตุทำไมย่าน้องเตยไม่หายตาบอด
จากกรณีโซเชียลแชร์คลิป อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องหมอนรองกระดูก ด้วยการให้นอนคว่ำ และเดินถีบผู้ป่วยแต่ละคน โดยในคลิปผู้ถ่ายบรรยายว่า ที่นอนอยู่นี่ มีอาการกระดูกทับเส้นทั้งหมด ไม่ต้องใช้เวลานาน แค่ให้อาจารย์ถีบแล้วลุกขึ้นเลย แล้วทดสอบเลยว่าเบาขึ้นไหม ดีขึ้นไหม ซึ่งมีคนยกมือตอบว่าโดนถีบแล้ว อาการดีขึ้น เบาขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมออนไลน์ตั้งคำถามกับการกระทำดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ต่อมา มีการเสนอข่าวเรื่อง นางเสาร์ อายุ 68 ปี ย่าน้องใบเตย เด็กหญิงชั้นอนุบาล 3 ที่เคยตกเป็นข่าวทำงานบ้านแทนย่าตาบอดที่อยู่กันเพียง 2 คนตามลำพัง จนกระทั่งมีคนบริจาคเงินช่วยเหลือได้เงินร่วม 6 ล้านบาท ซึ่งทางอาจารย์เอกพลังจิต เดินทางไปรักษาอาการตาฟางข้างขวาและบอดสนิทข้างซ้ายของนางเสาร์ ถึงบ้านที่ ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ขณะเป็นข่าวดังในตอนนั้น
นางเสาร์ เล่าหลังการรักษาว่า ตนยอมรับว่าอาการตาฟางข้างขวาซึ่งเหลือข้างเดียวที่ยังมองเห็นลาง ๆ ดีขึ้น แต่ผ่านไปได้ 3 วันอาการกลับมาเป็นเหมือนเดิม และล่าสุดตาทั้งสองข้างบอดสนิทแล้ว
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 13 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต หรือ นายกีรติ สมคิด อายุ 53 ปี หมอเทวดาคนดังในโซเชี่ยล ที่นำศาสตร์พลังจิต รักษาผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ แขนขาอ่อนแรง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดคอ ปวดหลัง ปวดหัวไมเกรน โดยวันนี้มีคนที่เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ มารอรับการรักษาเป็นจำนวนมาก
อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต หรือ นายกีรติ สมคิด อายุ 53 ปี กล่าวว่า สำหรับยายเสาร์อาจารย์เคยไปช่วยรักษาให้ 2 รอบ ทุกรอบที่ไปอาการก็ดีขึ้นหมด จากที่มองไม่เห็นแสงอะไรเลยใช้ไม้เท้าค้ำ จนตอนนี้เห็นหน้าลูกหน้าหลาน แต่เคยบอกแกไว้แล้วว่ามาช่วยได้แค่นี้ เพราะมาทีนึงอาจารย์หมดเกือบแสน ยายมีตังค์แล้วให้กรรมการเขาพามาหาอาจารย์ อาจารย์จะช่วยต่อเนื่อง บอกยายแกว่าถ้าไม่มารักษาต่อเนื่องเดี๋ยวจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เพราะยังไม่สู่กระบวนการที่ทำเต็มรูปแบบ คนตาบอดที่ผลออกมาแล้วว่ามองไม่เห็นอะไรเลย แต่อาจารย์ทำให้มองเห็น แต่นี่แกก็ยังเห็นอยู่ไม่ใช่บอดสนิท บางช่องไปออกข่าวว่าแกบอดสนิท รักษาเสร็จแล้ว 3 วันกลับมาบอดสนิทเหมือนเดิม ออกข่าวผิดไปให้แก้ไขให้อาจารย์ด้วย
หลังจากนี้อาจารย์จะไปพิสูจน์กับยายเสาร์ อยากให้นักข่าวทุกคนตามไปพิสูจน์ได้เลย ถ้าทำแล้วไม่ดีขึ้นอาจารย์จะเลิกทำทุกอย่าง ถ้าทางการแพทย์ไปเจาะไปผ่า หมอเขาก็บอกแล้วว่าทำอะไรไม่ได้ สำหรับของยายเสาร์ ของเขามองไม่เห็น 100% คือเดินต้องคลำทาง หมอบอกแล้วว่าไม่มีโอกาสมองเห็นแล้ว แต่อาจารย์ทำให้มองเห็นสีผ้า เห็นลูกเห็นหลานกอดคอกันร้องไห้ ทำไมไม่เอาคลิปนั้นมาลง ทำไมไม่พูดให้ดีๆ
พออาจารย์ช่วยเหลือคนจนเป็นกระแส รู้ไหมว่าผู้ป่วยที่มานั่งรออยู่ที่นี่ล้นมือทางการแพทย์ ซึ่งทางการแพทย์ไม่สามารถจะทำอะไรให้เขาได้แล้ว ทำไมเขาจะเลือกเส้นทางนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมาพิสูจน์อาจารย์ท้าทุกสาธารณสุขในประเทศไทย หมอดังๆ ในประเทศให้มาพิสูจน์กันอาจารย์ แล้วเอาศาสตร์นี้มาอยู่กับโลกใบนี้ คู่กับการรักษาแผนปัจจุบันมันจะดีกว่าไหมที่จะต้องมานั่งโจมตีกัน พิสูจน์เหมือนนักข่าวเมื่อกี้ ที่มีอาการปวดมาตั้งกี่ปีเดินแทบไม่ได้ อาจารย์ทำแค่ไม่กี่นาทีก็ดีขึ้น มาพิสูจน์ได้อาจารย์ยินดี
ท่านรัฐมนตรีอาจารย์ฝากเรื่องนี้มันเป็นของดี อยากให้มันอยู่คู่โลกใบนี้ อาจารย์ถ่ายทอดลูกศิษย์มา 300 กว่าคนแล้ว เก่งกันทุกคน อาจารย์เอก กล่าวต่อว่า คืออาจารย์จะอธิบายศาสตร์ชนิดนี้ว่า เป็นศาสตร์แรกที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ ไม่ผิดที่คนไม่เชื่อ เพราะมันเป็นเรื่องอัศจรรย์ ถ้าเป็นอาจารย์เองเห็นอาจารย์ก็ยังไม่เชื่อ แต่ถามว่าอาจารย์พิสูจน์ให้ทุกคนเห็น คืออาจารย์ฝึกในเรื่องของพลังจิตขั้นสูงแล้ว ต่อให้ไม่โดนตัวอาจารย์ก็รักษาได้เป็นบางโรค ใครปวดหัวอยู่ตรงไหนก็ได้ video call มาหาอาจารย์ อาจารย์ทำให้ดูผ่านโทรศัพท์ได้ หรือปวดเข่าให้รักษาตรงนี้ไม่ต้องจับก็ได้ เดี๋ยวหาเคสมาพิสูจน์ที่เคสเป็นจริง อะไรที่มันเกิดขึ้นมายินดีพิสูจน์ทุกเส้นทาง คือมันพิสูจน์ได้การจับต้องของอาจารย์คือการพิสูจน์
อาจารย์ไม่ได้บอกว่าคนที่มาหาอาจารย์คนนี้หาย ไม่ได้บอก แต่คนป่วยที่เขามาเขาพูดว่าดีขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าเขาบอกดีขึ้น 10% 20% อาจารย์ก็จะทำต่อ วันนั้นคนป่วยไปเป็นพันกว่าคน ลูกศิษย์อาจารย์ไป 30 กว่าคนรับมือไม่ไหว อาจารย์เลยต้องใช้อภิญญา เขาเรียกว่าอภิญญา คือเราใช้ฤทธิ์เล่นฤทธิ์ให้ทุกคนได้หายเร็ว เพราะในกระบวนการนั้นอาจารย์กำลังไปถวายกฐิน ต้องเร่งมันมีเวลาจำกัดและสถานที่ไกลจากที่อาจารย์อยู่ ก็เลยทำทีเดียวโดยเราใช้พลังจิตค่อนข้างที่จะรุนแรง ซึ่งไม่มีอันตรายต่อผู้ป่วย เหมือนทุกเคสที่มาไม่มีใครเจ็บเนื้อเจ็บตัว ไม่มีใครร้องโอดโอย ไม่ใช่กระชากกระดูกไม่ใช่ดึงหลัง
อาจารย์ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน การเชิญมาทุกคนเจ้าของสถานที่เขามีการเช่าอาคาร คือเป็นค่าครูใครจะรวบรวมมาให้ ค่าครูอาจารย์เดินทางมาอาจารย์ไม่ได้อยู่ที่นี่ ตรงนี้คุณอาทรเขาเปิดเขาเชิญอาจารย์มา อาจารย์บอกเดือนนี้ว่าง 6 วันคุณก็จัดคิวมา รวบรวมกันมา ใครไม่หายเขาก็ไม่รับค่าครูก็คืนไป ใครไม่รุนแรงอาจารย์ก็ไม่รักษาหรือรักษาก็ได้ อาจารย์จะเอาเฉพาะคนที่อาการรุนแรงที่หมอทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว เช่นกระดูกทับเส้นต้องไปผ่า อาจารย์มีอยู่ 4-5 บริษัท ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องทรัพย์สินเงินทอง มีค่าครูก็นำไปช่วยเหลือคน
อย่างอาจารย์ไปช่วยคนแต่ละที่หมดไม่ต่ำกว่า 7-8 หมื่นบาทจะเอาเงินที่ไหน ถ้าอยากจะรักษากับอาจารย์ก็จองคิวรวมตัวกันได้ ถ้าต้องการส่วนตัวก็ต้องเชิญอาจารย์ไป ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าที่พักอาจารย์เสียเวลา แต่อาจารย์ให้ขึ้นเป็นค่าครู อย่างที่บอกค่าครู ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามูลนิธิไปช่วยเหลือคน อาจารย์ไม่ได้พูดเรื่องเงินอยู่ที่ใครที่จัดกิจกรรมจัดงาน คนที่ทำเขาก็มีรายได้มีรายจ่ายของเขา พื้นที่เขาก็ต้องเช่าโรงแรมมีพนักงานแต่เขาก็ไม่ได้ไปเยอะอะไร แต่ทุกเคสทุกคนก็ต้องไปช่วยสร้างบุญกุศลกันหมด
อาจารย์พยายามตั้งค่าครูสูง ตั้งสูงเพราะอะไร เพราะอาจารย์ต้องการให้ทุกคนมาหาลูกศิษย์อาจารย์ เพราะอาจารย์ถ่ายทอดให้ลูกศิษย์แล้ว อย่ามาหาอาจารย์เลยอาจารย์เหนื่อยมาก จริงๆอยากจะหยุดรักษาด้วยตัวต่อตัว สร้างลูกศิษย์มามีเวลาเป็นของตัวเองเลย ครอบครัวยังไม่ได้ดูแลเลย ใครที่มาแล้วไม่ดีอาจารย์คืนเงินให้หมดทุกบาทแถมให้เงินกลับไปด้วย ใครที่มาบอกยืมเงินมาต่อให้มาหาอาจารย์นั่นคือความตั้งใจ อาจารย์คืนเงินให้ แต่อาจารย์ทำให้เขาดีทำให้เขาหาย ไม่ได้มานั่งหวังผลประโยชน์เรื่องเหล่านี้ ส่วนโรคความเสื่อมความดันเบาหวานไขมันอาจารย์ใช้พลังจิตไม่ได้ แต่ช่วยได้ในระดับหนึ่งจากเขาเวียนหัว แต่ความเสื่อมเช่นตาพร่าตามัวอาจารย์ช่วยได้ อย่างอัมพฤกษ์ช่วยให้เดินได้เลย
จากการสอบถาม นางกาญจณา อายุ 74 ปี หนึ่งในผู้ที่มารับการรักษา กล่าวว่า ตนป่วยเป็นหมอนรองกระดูกเคลื่อน ข้อที่ 4 ที่ 5 หลัง มีอาการร้าวไปถึงก้นจนและถึงขา มีอาการชาตั้งแต่เท้าจนถึงศีรษะเป็นมา 12 ปีกว่าแล้ว ไปรักษามาจนทั่วหมดเงินไปไม่น้อย ตนไปที่โรงพยาบาลตรวจว่าเป็นอะไร หมอได้ตรวจรักษา นำตัวเข้าอุโมงค์แล้วผลปรากฏว่าเป็นหมอนรองกระดูกเคลื่อน ข้อที่ 4 ที่ 5 การรักษาทางเดียวคือการผ่าตัด ถ้าหากไม่ผ่าจะเดินไม่ได้ ตนได้ไปตรวจอีกหลายโรงพยาบาลผลการวินิจฉัยก็ออกมาเหมือนกันคือให้ผ่าตัด แต่ตนกลัวว่าผ่าแล้วจะเดินไม่ได้ ไปฝังเข็ม ใช้ถ้วยดูดก็ไม่หาย มารักษาที่นี่ครั้งแรกก็อาการดีขึ้น ตนรู้จักอาจารย์จากในยูทูบที่ทำการรักษาคน
จนล่าสุดเห็นรักษานายวินัย ไกรบุตร ซึ่งตนติดตามดูว่าอาการเป็นอย่างไรหลังการรักษาไป 5 วัน 8 วัน พบว่านายวินัย ไกรบุตร อาการดีขึ้นจึงตัดสินใจมารักษา ตอนมายังรักษาตนยังเดินไม่สะดวก แต่หลังจากรักษาแล้วก็วิ่งได้ โดยอาจารย์บอกว่าถ้าหายแล้วไม่ต้องมาอีก ตอนนี้เดินได้หันซ้ายหันขวาได้สะดวกขึ้น ตอนแรกขากรรไกรแข็ง พูดคุยได้ไม่นานจะมีอาการเมื่อย โดยอาจารย์เอกใช้เวลารักษาไม่ถึง 5 นาทีก็ดีขึ้น ตนคิดว่าตนน่าจะหาย ไม่ได้มาเล่นละคร ไม่ได้ค่าตัว
นางอภิญญา อายุ 62 ปี มาจาก จ.เพชรบุรี กล่าวว่า ป่วยเป็นกระดูกทับเส้นมา 4 ปีแล้ว ที่ปวด ไปรักษาที่โรงพยาบาล หมอให้ยามาทา รู้ว่าที่นี่มีเพราะดูจากโทรศัพท์ จึงเดินทางมาเพราะเดินไม่ค่อยได้หลังให้อาจารย์เอกรักษาแล้วก็เดินได้ น่าจะหายแล้ว