ปณิธานปัดสั่งสกัดแดง คนมากรปภ.ขั้นสูงสุด
โฆษก ประจำสำนักนายกฯ เผย สาเหตุตำรวจยกระดับ รปภ.ขั้นสูงสุด เนื่องจากมีคนเข้ากรุงเทพฯ เป็นจำนวนมากปัดสั่งเจ้าหน้าที่ ตั้งจุดสกัดแดง ร่วมชุมนุมใหญ่ ด้าน ศปก.ตร. สรุปตัวเลขล่าสุด ผู้เข้าร่วมชุมนุมเสื้อแดง 50,000 คน ที่สะพานผ่านฟ้าฯ เฝ้าระวังตลอด 24 ช.ม.ห่วงยืดเยื้อ ถึงวันจันทร์รถติดหนักแน่
นาย ปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง สาเหตุการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดว่า เป็นการประเมินตามสถานการณ์ เนื่องจากมีกลุ่มคนเสื้อแดง เดินทางมายังกรุงเทพฯ จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงต้องดูแลความปลอดภัย และเฝ้าระวังพื้นที่ล่อแหลม กลุ่มบุคคลต้องสงสัย การค้นบุคคลกลุ่มเป้าหมาย การตั้งจุดตรวจ โดยการมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว รวมไปถึงเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อส่งข้อมูลข่าวสารมายังรัฐบาล ซึ่งเป็นมาตรการที่จะต้องทำให้ได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นายปณิธาน ยังปฏิเสธถึงกระแสข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พยายามที่จะสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถเดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ที่ กรุงเทพฯ ได้ โดยยืนยันว่า ไม่มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่กระทำเช่นนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยอยู่ในกรอบของกฎหมาย
ขณะที่ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าของกลุ่ม นปช. โดยระบุว่า ในทางข่าวขณะนี้ผู้ชุมนุมเดินทางเข้ามาถึงกรุงเทพฯแล้ว จำนวนกว่า 50,000 คน ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เหลืออีก 20,000 คน ภาคตะวันเฉียงเหนืออีก 50,000 คน คาดว่า เดินทางมาถึงในค่ำคืนนี้ ทั้งนี้ระบุว่า จากการตรวจค้น ขณะนี้ยังไม่พบว่า มีการพกพาอาวุธร้ายแรงเข้ามาแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้ประมาท เตรียมประสานขอความร่วมมือกับทางแกนนำ นปช.เรื่องการตรวจค้นอาวุธด้วย พร้อมเน้นย้ำ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลเรื่องการทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม และ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้แยกออกจากกัน ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องรอดูความชัดเจนในการปราศรัยที่จะเกิดขึ้น ในวันนี้เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนจุดชุมนุม
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ช.ม. หากการชุมนุมยืดเยื้อจนถึงวันจันทร์ยอมรับว่า เป็นห่วงเรื่องการจราจร โดยได้เตรียมแผน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการจราจรไว้แล้ว
ด้าน พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวภายหลังประชุมชุดเคลื่อนที่เร็ว ของ บก.น. 1 - 9 ว่า ได้กำชับตำรวจใต้บังคับบัญชาให้อดทน แม้จะโดนสิ่งที่เรียกว่าอาวุธชีวภาพ เพราะความรุนแรงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เราจะดูแลให้พี่น้องชุมนุมอย่างสันติและปลอดภัย สิ่งที่เป็นห่วงคือมือที่ 2 ที่ 3 หรือผู้ชุมนุมบางคนที่เล็ดลอดด่านตรวจเข้ามา ถ้าหากมีเหตุการณ์อะไรขึ้นมา พวกมือที่ 3 ที่ 4 ใช้อาวุธปืนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ซึ่ง ตร.ไม่มีอาวุธปืน มีเฉพาะโล่กระบอง และอุปกรณ์ป้องกันตนเอง จึงเป็นห่วงพี่น้องตำรวจทหารอาจจะถูกทำลายถึงแก่กายและชีวิตได้
ผบช.น.กล่าวอีกว่า ได้เรียกหัวหน้าชุดจู่โจมทั้ง 88 สน.รวมทั้งชุดอรินทรราช และชุดนเรศวร 261 มาประชุมพร้อมกัน เพื่อทำการซักซ้อมทำความเข้าใจ ว่า 1.ทุกคนต้องแต่งเครื่องแบบเรียบร้อย มีอาวุธปืนประจำกาย 2.ต้องมียานพาหนะทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อความรวดเร็ว เพื่อจะได้เข้าไปแก้ไขสถานการณ์ให้ได้ทันท่วงที เพราะถ้าล่าช้าไปความสูญเสียก็จะเพิ่มมากขึ้น 3.ชุดจู่โจมทั้ง 88 ชุดรวมกับชุดพิเศษอีก 10 ชุด รวมเป็น 90 ชุด จะต้องมีความพร้อมสูงสุดตลอด 24 ช.ม. ทั้งกลางวันและกลางคืน และขณะนี้ยังไม่พบ