ดูวิธี "ลบประวัติอาชญากรรม" โครงการดีๆ ที่คืนชีวิตให้ประชาชนแล้ว 9.3 ล้านราย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันนี้ สังคมของเราให้ความสำคัญกับ “การตรวจสอบประวัติบุคคล” มากขึ้น การสมัครเข้าทำงานกลายเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคนที่มีประวัติอาชญากรรม แม้ว่าศาลจะยกฟ้องหรือคดีความสิ้นสุดไปแล้ว แต่ชื่อของเขาก็ยังปรากฏอยู่ในกองทะเบียนประวัติอาชญากรรม นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้สำนักตำรวจแห่งชาติเร่งทำงานเพื่อ “ลบประวัติอาชญากรรม” ให้ประชาชนคนไทย
Sanook พาไปดูวิธี “ลบประวัติอาชญากรรม” ที่ทำเองได้ง่ายๆ ผ่านทางเว็บไซต์
“ลบประวัติอาชญากรรม” คืออะไร
การลบประวัติอาชญากรรม คือ การลบประวัติของประชาชนที่เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีอาญา แต่ศาลพิพากษายกฟ้อง หรือพนักงานอัยการไม่สั่งฟ้อง แต่ยังมีประวัติอาชญากรรมอยู่ในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ทำให้ถูกตัดสิทธิ ไม่ได้รับการพิจารณาเข้าทำงาน และขาดโอกาสกลับไปใช้ชีวิตใหม่
โครงการ “ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน” ดำเนินการต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว โดยในช่วงเริ่มต้นตรวจสอบพบว่า มีรายการที่ยังไม่เคยมีรายงานผลคดีถึงที่สุดในฐานข้อมูลฯ มากกว่า 13 ล้านรายการ ต่อมา จึงได้ทำการปรับปรุงฐานข้อมูลประวัติให้เป็นปัจจุบัน ทำให้มีบุคคลที่มีชื่อในทะเบียนประวัติอาชญากรเพียง 3,729,173 ราย จากทั้งหมด 13,051,234 ราย สามารถคืนสิทธิ์ให้กับประชาชนจากโครงการนี้แล้ว มากกว่า 9.3 ล้านราย
หลักเกณฑ์การลบประวัติอาชญากรรม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ประวัติบุคคล ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วย “หากไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์” โดยหลักเกณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุง มีดังต่อไปนี้
- คดีมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง
- ยกฟ้อง
- มีกฎหมายยกเลิกความปิดนั้น เช่น ใบกระท่อม กัญชา
- ผู้เสพยาเสพติดที่ผ่านการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่มีผลเป็นที่น่าพอใจ
- ผู้ที่ได้รับการนิรโทษกรรม
- ได้รับการอภัยโทษ
- มีกฎหมายล้างมลทิน
- ไม่มีการกระทำความผิดซ้ำภายใน 20 ปี
- ผู้ต้องหาเป็นเด็ก หรือเยาวชน
- มีคำพิพากษาใหม่ว่ามิใช่ผู้กระทำความผิด และคดีขาดอายุความ
ประชาชนสามารถตรวจสอบคุณสมบัติได้เองว่าเป็นผู้ที่อยู่ในโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชนหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ www.crd-check.com หากมีชื่ออยู่ในโครงการ ก็แสดงว่าประวัติอาชญากรรมถูกคัดแยกและถอนประวัติเรียบร้อยแล้ว
วิธีตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
ประชาชนสามารถตรวจสอบประวัติของตัวเองผ่านเว็บไซต์ https://www.crd-check.com ซึ่งฐานข้อมูลนี้จะเชื่อมต่อกับตำรวจ อัยการ ศาล และกระทรวงยุติธรรม
โดยเงื่อนไขและเอกสารสำหรับการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม มีดังต่อไปนี้
- เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
- ให้กรอกข้อมูลตามจริง แนบไฟล์ภาพบัตรประชาชนที่ถ่ายจากบัตรประชาชนตัวจริงเท่านั้น และใส่ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ของผู้มารับผล การขอตรวจสอบประวัติเป็นการแจ้งข้อความต่อเจ้าพนักงาน หากให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนโดยปกปิดข้อมูล อาจเป็นความผิดทางอาญา
- การตรวจสอบประวัติด้วยชื่อ-ชื่อสกุลและเลขประจำตัวประชาชน ไม่สามารถยืนยันประวัติได้ดีเท่ากับการตรวจสอบ ด้วยลายพิมพ์นิ้วมือ
- ระยะเวลาดำเนินการ ภายใน 7-15 วันทำการ (ไม่รวมวันหยุดราชการ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดพิเศษ)
- การตรวจสอบสถานะ สามารถตรวจสอบในเว็บไซต์ www.crd-check.com เมื่อขึ้นสถานะว่า อนุมัติ จึงสามารถมารับผลตรวจประวัติอาชญากรได้
- ถ้าไม่ได้ระบุผู้รับมอบอำนาจ จะไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นมารับผลตรวจสอบประวัติได้ และ ถ้ามอบอำนาจให้บุคคลใดแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้รับมอบอำนาจได้
- โปรดตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนบันทึกข้อมูล หากกดส่งข้อมูลแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ รวมถึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานที่ในการรับผลตรวจได้
- เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนส่งข้อมูลแล้ว ให้บันทึกภาพหน้าจอในขั้นตอนสุดท้ายไว้เป็นหลักฐานในการติดตามและรับผลตรวจสอบประวัติ ทั้งนี้ ท่านสามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการด้วยเลขประจำตัวประชาชน
- การรับผลตรวจสอบประวัติ ผู้มารับผลตรวจประวัติต้องนำบัตรประชาชนตัวจริง มาแสดง ณ จุดรับผลการตรวจสอบประวัติด้วย กรณีมอบอำนาจให้มารับผลตรวจประวัติต้องนำบัตรประชาชนตัวจริงของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมนำหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบ ที่มีการเซ็นรับรองสำเนา พร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท มาแสดงในวันที่รับผลตรวจประวัติ
ผลตรวจประวัติมีค่าธรรมเนียมชุดละ 100 บาท (รับผลประวัติได้ตามจำนวนที่ระบุไว้ในระบบเท่านั้น) ชำระในวันที่มารับผลตรวจ ณ สถานที่ที่เลือกรับผลการตรวจสอบ
ทั้งนี้ การตรวจสอบประวัติเพื่อ เข้ารับบรรจุราชการ, ขออนุญาตทำใบขับขี่, ขออนุญาตซื้อ มีและใช้ หรือโอนอาวุธปืน ต้องตรวจสอบด้วยพิมพ์ลายนิ้วมือเท่านั้น