หมอจะบ้าตาย กระแส "ซิลเวอร์คอลลอยด์" อ้างช่วยล้างพิษ ลั่นคนไทยจะกลายพันธุ์แล้ว

หมอจะบ้าตาย กระแส "ซิลเวอร์คอลลอยด์" อ้างช่วยล้างพิษ ลั่นคนไทยจะกลายพันธุ์แล้ว

หมอจะบ้าตาย กระแส "ซิลเวอร์คอลลอยด์" อ้างช่วยล้างพิษ ลั่นคนไทยจะกลายพันธุ์แล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอจะบ้าตายรายวัน กระแส "ซิลเวอร์คอลลอยด์" อ้างช่วยล้างพิษ ลั่นคนไทยจะกลายพันธุ์แล้ว เตือนได้รับสารมากๆ ผิวหนังจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน

หมอเอิร์ธ อติรุจ อาษาศึก แพทย์และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ หรือ เอ็กซ์ @AerthH เป็นภาพการสนทนาในกรุ๊ปแชตที่มีสมาชิกถึง 5,000 คน พร้อมระบุว่า "มึง คนไทยจะกลายพันธุ์กันแล้ว ล่าสุดไปหา Colloidal Silver มาผสมกิน คนในกรุ๊ป 5,000 โลกจะแตกเมื่อไหร่"

ซึ่งข้อความและภาพที่ส่งต่อกันในกลุ่ม เป็นเรื่องของการใช้ ซิลเวอร์คอลลอยด์ หรือ แร่ธาตุคอลลอยด์ โดยอ้างว่ามีสรรพคุณช่วยในการล้างพิษ กระทุ้งพิษ ซึ่งหมอเอิร์ธก็ได้บอกด้วยว่า คนแท็กอะไรแบบนี้มาให้ดูบ่อยมาก จะบ้าตายรายวัน 

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ โควิด-19 ระบาดใหม่ๆ ในต่างประเทศทางแถบยุโรปและอเมริกา หนึ่งในข่าวปลอมที่เป็นกระแสมาแรงคือมีการแชร์ว่า แร่ธาตุคอลลอยด์ หรือ Colloidal Silver สามารถรักษาโควิด-19 ได้ อีกทั้ง ช่วยฆ่าเชื้อไวรัส ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง สามารถรักษาภาวะต่างๆ ได้ เช่น มะเร็ง เบาหวาน ข้ออักเสบ ฯลฯ แต่ต่อมาก็มีการยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วว่า ไม่เป็นความจริง

ซิลเวอร์คอลลอยด์ (Colloidal Silver) คือ แร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่เชื่อว่าสามารถรักษาภาวะต่าง ๆ เช่นการติดเชื้อ, มะเร็ง , เบาหวาน, ข้ออักเสบ และอื่น ๆ แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาเป็นเครื่องยืนยันว่า การใช้ซิลเวอร์คอลลอยด์นั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการรักษา

Dr. Helene Langevin ผู้เชี่ยวชาญของ National Center for Complementary and Integrative Health หรือ NCCIH เปิดเผยว่า Colloidal Silver จัดเป็นแร่ธาตุที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่เหมือนกับแร่ธาตุ Zinc หรือ ธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกาย

การใช้แร่ธาตุคอลลอยด์ ไม่ว่าจะรับประทาน ทาบนผิว หรือฉีดเข้ากระแสเลือด ถือว่าไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง เพราะสารตัวนี้จะเข้าไปสะสมอยู่ตามอวัยวะต่างๆ เช่น ผิวหนัง ตับ ไต กล้ามเนื้อ และสมอง อาจทำให้เกิดภาวะ Argyria หรือโรคผิวสีน้ำเงิน ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากการที่ผู้ป่วยได้รับสารประกอบจำพวกเงินปริมาณมากๆ ทำให้ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีฟ้าแบบที่ไม่สามารถแก้ไขได้

นอกจากนี้ การได้รับคอลลอยด์มากๆ ยังกระตุ้นการผลิตเมลานินบนผิวทำให้สีผิวคล้ำขึ้น โดยผิวหนังบริเวณที่ถูกแสงอาทิตย์เปลี่ยนแปลงได้ง่าย เมื่อเข้าไปสะสมตามอวัยวะต่างๆ จะทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะ และยังมีข้างเคียงอื่นๆ อีก เช่น ทำให้ไตเกิดความเสียหาย หรือทำให้เกิดอาการชัก ในผู้หญิงตั้งครรภ์อาจส่งผลกับเด็กที่อยู่ในครรภ์ได้

พอล คาราสัน ชายชาวอเมริกัน วัย 62 ปี ฉายามนุษย์ผิวน้ำเงิน  มีชื่อเสียงและรู้จักไปทั่วโลก จากการที่เขามีผิวหนังสีน้ำเงิน หลังได้รับสารสีเงินเพื่อใช้รักษาอาการผิวหนังบนหน้า แต่เขากลับเกิดอาการแพ้ จนมันเปลี่ยนเม็ดสีในร่างกายเป็นสีน้ำเงินในที่สุด 

โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐก็ได้สั่งระงับห้ามใช้สารดังกล่าวในวงการแพทย์ในปี 1999 เพราะมันมีผลข้างเคียงสามารถเปลี่ยนสีผิวหนังและอวัยวะอื่นๆ ไปตลอดอย่างถาวร 

พอล คาราสัน เสียชีวิตเมื่อปี 2556 จากอาการหัวใจวาย ติดเชื้อปอดบวม และมีอาการเส้นเลือดสมองแตกอย่างรุนแรง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook