เจ้าบ่าวแร๊งค์! มารับเมียถึงห้องแล้ว จู่ๆ พี่ชายขอสินสอดเพิ่ม เจอตอกกลับเจ็บ แถมแก้เผ็ดแสบ
เจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวเข้าพิธีแต่งงาน จู่ๆ พี่ชายเล่นแง่ขอสินสอดเพิ่ม เจอตอกกลับเจ็บ แถมแก้เผ็ดแสบ งานนี้มีคนเป็นหม้ายขันหมาก
การแต่งงานไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นการพึ่งพาความพยายามและความทุ่มเทของกันและกัน สำหรับผู้ชายการแต่งงานถือเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน ทุกคนรู้ดีว่าเมื่อตัดสินใจเริ่มต้นสร้างครอบครัวแล้วนั้น ภาระทางการเงินก็จะหนักหน่วงมากขึ้น ความรู้สึกรับผิดชอบในเรื่องการงาน-การเงินก็ต้องเพิ่มมากขึ้นด้วย
คุณเฉิน (นามแฝง) และคุณหลิน (นามแฝง) คู่รักชาวจีนที่กำลังจะแต่งงานกัน หลังจากคบหากันมาตั้งแต่มหาวิทยา ซึ่งก่อนแต่งงานคุณเฉินยังได้วางแผนอย่างดีที่สุด หลังจากนี้เขาจะเริ่มต้นธุรกิจ เพราะเขาไม่เพียงแต่ต้องแบกรับความรับผิดชอบในฐานะสามีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทบาทการเป็นพ่อในอนาคตด้วย
เมื่อวันแต่งงานมาถึง คุณเฉินเดินทางมารับตัวเจ้าสาวด้วยความตื่นเต้น หลังจากผ่านการทดสอบต่างๆ ของเพื่อนเจ้าสาว ในที่สุดก็มาถึงห้องที่เจ้าสาวรออยู่ เขาถือช่อดอกไม้ไว้ในมือ และเดินไปคุกเข่าลงต่อหน้าคนรัก แล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า "แต่งงานกับผมนะ” อย่างไรก็ตาม ในตอนที่คุณหลินกำลังจะรับดอกไม้อย่างมีความสุข จู่ๆ พี่ชายของเธอก็เข้ามายืนขวางและเรียกร้องค่าสินสอดเพิ่มอีก 100,000 หยวน (เกือบ 5 แสนบาท)
ทันทีที่คุณเฉินได้ยินจำนวนเงินที่ถูกเพิ่มขึ้นมาอยาางกระทันหันก็รู้สึกสับสน เพราะคนที่ควรเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องสินสอดควรเป็นพ่อแม่ ไม่ใช่พี่ชาย อีกทั้งครอบครัวของเขาก็ได้เตรียมสินสอดมาตามที่ตกลงแล้ว แต่ทำไมจู่ๆ ภาระก้อนใหญ่ถึงมาตกอยู่บนบ่าของเขาอีกล่ะ? ซึ่งพี่ชายของคุณหลินก็ไม่ได้ปกปิดอะไรเลย เนื่องจากฐานะทางการเงินของครอบครัว “มีจำกัด” เขาจึงอยากให้น้องเขยหาเงินมาให้ก่อน
ในตอนนี้ทั้งคุณเฉินกล่าวว่า อันที่จริงการบวกเงินพิเศษ 100,000 หยวน เป็นของขวัญนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ทำไมครอบครัวเจ้าสาวถึงไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ล่วงหน้าได้ แต่กลับหยิบยกมาพูดในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะห่วงใยคนรัก เพราะมีความรักให้เธออย่างเต็มเปี่ยม แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามการถูกมัดมือชกเช่นนี้ได้ จึงถามตัวเองว่าควรช่วยให้พี่ชายของเจ้าสาวได้รับเงินจำนวนนี้? เมื่อเจ้าสาวได้ยินสิ่งที่เขาพูดก็ดูไม่มีความสุข
เมื่อคุณเฉินพิจารณาจากข้อเรียกร้องของพี่ชายเจ้าสาว และการแสดงออกของตัวเธอเอง สุดท้ายนายเฉินก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าต้องเป็นแบบนี้ ผมจะไม่แต่งงาน” ทำให้ทุกคนต่างอึ้ง และยิ่งอึ้งกว่านั้นอีกเมื่อเขาหันไปพูดกับเพื่อนเจ้าสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ว่า “คุณจะมาเป็นอีกครึ่งของชีวิตผมไหม?”
ปรากฎว่าเพื่อนเจ้าสาวคนนี้ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เธอหลงรักคุณเฉินมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่เพราะในสายตาของเขาในเวลานั้นมีแต่คุณหลิน ดังนั้น เมื่อจู่ๆ เขามาคุกเข่าลงต่อหน้าเพื่อขอเธอแต่งงาน จิตใจของเธอก็ว่างเปล่าไปชั่วขณะ แต่เมื่อเธอตั้งสติว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เธอก็ตอบตกลงอย่างมีความสุขทันที แม้จะรู้ว่าเขาทำแบบนี้เพราะความโกรธเจ้าสาวและพี่ชายก็ตาม
จากนั้น คุณเฉินก็จูงมือ “เจ้าสาวคนใหม่” ออกจากห้องไป ปล่อยให้คุณหลินและพี่ชายของเธอมองหน้ากันอย่างเชื่องช้า สิ่งที่เดิมทีเป็นวันแห่งความสุขก็จบลงอย่างโดดเดี่ยว เพียงเพราะไม่ทะนุถนอมความรักที่มีอย่างเหมาะสม โลภมากในทรัพย์สินจนเกินไป จนกลายเป็นความเสียใจไปตลอดชีวิต รวมทั้งสิ่งดีๆ ที่เคยมีมาในอดีต ก็พังทลายลงในพริบตาเดียวเช่นกัน
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ