คู่รักเปิดโรงแรมสวีท เสร็จกิจหนุ่มช็อกจนทรุด สาวเป็นศพแขวนคอ แถมโดนสามีคนตายฟ้อง!

คู่รักเปิดโรงแรมสวีท เสร็จกิจกลายเป็นโศกนาฏกรรม หนุ่มช็อกจนทรุด สาวกลายเป็นศพแขวนในห้อง ช็อกซ้ำโดนสามีคนตายฟ้อง!

คดีที่น่าตกตะลึงในเมืองซานเว่ย มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้รับความสนใจจากสาธารณชน ชายคนหนึ่งนัดพบกับคนรักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง หลังเสร็จกิจเขาก็ออกไปสูบบุหรี่ แต่เมื่อจะกลับเข้าห้องกลับพบว่าประตูล็อคอยู่ เขามีลางสังหรณ์บางอย่างในทางที่ไม่ดี จึงรีบขอให้บริกรเปิดประตู และก็ต้องพบภาพช็อกเมื่อหญิงสาวคู่รักของเขาผูกคอตายอยู่ในห้อง อีกทั้งในเวลาต่อมา เขายังถูก “สามี” ของผู้เสียชีวิตฟ้องร้องเรียกเงินจำนวนมาก

นายจิน (นามสมมุติ) เดิมทีเขาเป็นช่างเทคนิคในโรงงานผลิตเครื่องจักร แต่หลังจากแต่งงาน เขารู้สึกว่าไม่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ จึงตัดสินใจลาออกจากงาน และเปิดโรงงานฮาร์ดแวร์ของตนเอง ซึ่งภรรยาก็สนับสนุนการตัดสินใจของเขา และเงินระดมทุนเริ่มต้นก็ได้รับการช่วยเหลือจากครอบครัวของเธอ ทั้งคู่ทำงานร่วมกันเพื่อทำให้โรงงานขนาดเล็กเจริญรุ่งเรือง ในขณะที่โรงงานขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นายจินก็ร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม เขาเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ภรรยาผู้น่าสงสาร นอกจากนี้ ในงานปาร์ตี้เขาได้พบกับนางหลิง (นามสมมุติ) ผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนหนึ่ง และในไม่ช้าพวกเขาก็มีความสัมพันธ์กัน

อย่างไรก็ตาม ภรรยานานจินจับได้ว่าเขาแอบนอกใจ เธอตัดสินใจเปิดฉากต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตคู่ของเธอและทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยากลับมาปรองดองเหมือนเดิม โดยการไปพบสามีของนางหลิง และบอกความจริงทั้งหมดกับเขา อีกทั้งยังไปที่ทำงานเพื่อทำลายชื่อเสียงของชู้สาว ทำให้ปัญหารายล้อมนางหลิง ทันที ชีวิตครอยครัวอยู่ในความระส่ำระสาย และที่ทำงานก็มีข่าวฉาวโฉ่ สามีของเธอกำลังจะยื่นเรื่องหย่าร้าง และนายจ้างของเธอต้องการไล่เธอออก ภายใต้สถานการณ์นี้ เธอตัดสินใจโทรหานายจิน และขอพบเขาที่โรงแรมที่ทั้งคู่มักนัดพบกัน

หลังจากที่ทั้งสองมีความสัมพันธ์อันอบอุ่น พวกเขาก็เผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากความสัมพันธ์ถูกทำลาย และไม่สามารถหาทางออกได้ ในทีสุดก็ทะเลาะกันอีกครั้ง นายจินอารมณ์เสียและเดินออกจากห้องไปสูบบุหรี่ เขาพยายามสงบสติอารมณ์เพื่อจะกลับไปคุยกับเธออีกครั้ง แต่เมื่อจะกลับเข้าไปในห้องกลับพบว่าประตูถูกล็อกจากด้านใน และไม่ว่าเขาจะเคาะหนักแค่ไหนก็ไม่มีการตอบสนอง ทำให้เขามีลางสังหรณ์ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น จึงเรียกพนักงานมาเปิดประตู สิ่งที่เห็นทำให้เขาล้มลงกับพื้น เพราะนางหลิงกลายเป็นศพไปแล้ว เธอแขวนคอตัวเองเสียชีวิตอยู่ในห้องนั้น

หลังจากแจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ตำรวจก็ตัดสินว่ามีการฆาตกรรม สามีของนางหลิงได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อนายจิน, ภรรยาของนายจิน และโรงแรม เรียกร้องเงินจำนวน 980,000 หยวน (ประมาณ 4.8 ล้านบาท)

• มุมมองทางกฎหมาย เรื่องนี้ควรพิจารณาอย่างไร?

ก่อนอื่น สามีของนางหลิงเชื่อว่า โรงแรมล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อผูกพันด้านการคุ้มครองความปลอดภัย มาตรา 1198 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งกำหนดว่า ผู้ดำเนินการและผู้จัดการโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร สถานี สนามบิน สนามกีฬา สถานบันเทิง และสถานที่ธุรกิจอื่นๆ และสถานที่สาธารณะ หรือการจัดกิจกรรมมวลชน หากไม่ปฏิบัติตามการคุ้มครองความปลอดภัย ภาระผูกพันและก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น จะต้องรับผิดต่อการละเมิด

อย่างไรก็ตาม ศาลปฏิเสธคำกล่าวอ้างของเขา และตัดสินว่าเขาแพ้คดี มาตรา 64 ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งกำหนดว่า คู่กรณีที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่จัดเตรียมพยานหลักฐานในการร้องเรียนของตน ศาลตัดสินว่า ถึงแม้นางหลิงจะแขวนคอตัวเองอยู่ในห้องพักของโรงแรม แต่ยังไม่สามารถตัดเรื่องปัญหาทางอารมณ์ที่เป็นต้นเหตุไปได้ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงแรมเลย แม้ว่าโรงแรมจะมีภาระผูกพันด้านความปลอดภัยต่อลูกค้า แต่การเสียชีวิตของเธอไม่ได้เกิดจากการรักษาความปลอดภัยอย่างไม่มีเงื่อนไขของโรงแรม เช่น การล้มและการทุพพลภาพ ดังนั้นโรงแรมจึงไม่ต้องรับผิดชอบ

ในเวลาเดียวกัน สามีของนางหลิงเชื่อว่า การที่นายจินมีความสัมพันธ์นอกกฎหมายกับภรรยาของเขา และเมื่อภรรยาของนายจินรู้ก็ไปกระจายข่าวในที่ทำงานของนางหลิง ข่าวลือที่นำไปสู่ภาวะทางจิตวิทยา นี่คือตัวกระตุ้นที่ทำให้เธอลงมือปลิดชีพตัวเอง ซึ่งมาตรา 1179 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งกำหนดว่า หากมีผู้ใดทำร้ายบุคคลอื่นจนทำให้เสียชีวิต บุคคลนั้นจะต้องชดเชยค่าปลงศพและค่าชดเชยการเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม ศาลถือว่าแม้ว่าการกระทำของนายจินและภรรยา จะถือเป็นการละเมิดชื่อเสียงของนางหลิง แต่พวกเขาไม่ได้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตโดยตรง การเสียชีวิตเกิดจากปัญหาทางอารมณ์และความกดดันทางจิตใจของเธอเอง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้อื่น ดังนั้น ศาลจึงปฏิเสธคำกล่าวอ้างของสามีนางหลิง และถือว่านายจินและภรรยา ไม่จำเป็นต้องรับผิดในการชดใช้ค่าเสียหาย

กรณีนี้คำตัดสินว่า ข้อพิพาทที่เกิดจากปัญหาทางอารมณ์ มีความซับซ้อนทางกฎหมายมาก แม้ว่าสามีของนางหลิงจะโกรธและเสียใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จากมุมมองทางกฎหมาย การกระทำของนายจินอละภรรยา ไม่ได้นำไปสู่การตายของนางหลินโดยตรง ดังนั้น พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย

นอกจากนี้ กรณีนี้ยังสะท้อนถึงการขาดความสนใจของสังคมต่อประเด็นทางอารมณ์อีกด้วย ในชีวิตจริง ผู้คนจำนวนมากต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางอารมณ์และความเครียด แต่สังคมไม่ได้ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือทางจิตใจที่เพียงพอแก่พวกเขา หวังว่าสังคมจะให้ความสำคัญกับปัญหาทางอารมณ์มากขึ้น และปรับปรุงคุณภาพจิตใจของผู้คน เพื่อให้ทุกคนสามารถเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายในชีวิตอย่างกล้าหาญ

โดยรวมแล้ว คดีนี้เป็นการปลุกให้เราตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาทางอารมณ์ เราควรทะนุถนอมชีวิตของตนเอง และในขณะเดียวกันก็เคารพชีวิตของผู้อื่น ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เราจะสามารถร่วมกันสร้างสังคมที่สวยงามและกลมกลืนได้