"ผู้การจ๋อ" ฝากถึงแม่แก๊งยิงครูเจี๊ยบ พฤติกรรมลูกไม่ธรรมดา ฟันเฟืองบนตัวแสดงถึงชั้นยศ

"ผู้การจ๋อ" ฝากถึงแม่แก๊งยิงครูเจี๊ยบ พฤติกรรมลูกไม่ธรรมดา ฟันเฟืองบนตัวแสดงถึงชั้นยศ

"ผู้การจ๋อ" ฝากถึงแม่แก๊งยิงครูเจี๊ยบ พฤติกรรมลูกไม่ธรรมดา ฟันเฟืองบนตัวแสดงถึงชั้นยศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้การสืบนครบาล ยัน ฟันเฟืองที่พบบนร่างกายของกลุ่มผู้ต้องหาแสดงถึงชั้นยศ เทียบเคียงเสมือนเหล่าทัพ ที่ประสบความสำเร็จในการก่อเหตุ รับคำท้าเจอในชั้นศาล หลักฐานดิ้นไม่หลุดแน่นอน ฝากถึงแม่ พฤติกรรมลูกไม่ธรรมดา นั่งบนแคร่ถูกขบวนการ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล เผยความคืบหน้าคดียิงน้องหยอด นศ.อาชีวะอุเทนถวาย และครูเจี๊ยบเสียชีวิต ก่อนเข้าประชุม โดยยืนยันว่าจากการสอบสวน กรณีพบสัญลักษณ์ฟันเฟืองประทับบริเวณร่างกายร่างกาย หัวไหล่ และเสื้อช็อปของกลุ่มเยาวชน ที่ จับกุมจากคดีนี้ ที่มีความเชื่อมโยงคนร้ายยิงน้องหยอดนักศึกษาอุเทนถวายและครูเจี๊ยบเสียชีวิต

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นเหมือนอวยชั้นยศ เสมือนเหล่าทัพ วิธีการ นำเหล็กไปเผาไฟก่อนจะนำมาประทับในร่างกายของผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุเพื่อแสดงให้เห็น ระดับชั้นจากการก่อเหตุแต่ละครั้ง ซึ่งมีความหมายสำหรับขบวนการว่า หากมีมาก ก็จะเป็นระดับยศชั้นสูงหรือเป็นผู้นำ เทียบเคียงสี่เหล่าทัพเรื่องนี้ ทางฝ่ายสืบสวนถือว่าเป็นประเด็นย่อย แต่ก็ได้มีการเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 9 คนที่ตรวจพบรอยประทับฟันเฟืองยืนยันว่าไม่ใช่ระดับธรรมดาแต่เป็นระดับแกนนำแนวหน้าของขบวนการดังกล่าว ประเด็นดังกล่าวทางกองสืบสวนก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้วแต่ไม่ใช่เป็นประเด็นหลัก ส่วนกรณีที่ขบวนการดังกล่าวนำรูป นายศตวรรษ นักศึกษาร่วมสถาบันที่เสียชีวิต หลังถูกก่อเหตุยิงเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา บริเวณจรัญสนิทวงศ์ และนำมาติดพร้อมนำพวงมาลัยมาคล้องคล้ายกับการเชิดชูผู้เสียชีวิตและปลูกเร้าให้ขบวนการฮึกเหิมในการแก้แค้นคู่อริ

พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า เรื่องดังกล่าว ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัว โดยทางตำรวจไม่เคยบอกว่าผู้เสียชีวิตเป็นแกนนำของกลุ่มนี้แต่ถูกใช้มาเป็นเครื่องมือในการมาแก้แค้นคู่อริ พร้อมให้ความเป็นธรรม พร้อมระบุ คดีดังกล่าวและคดีอื่น ขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวน ได้รื้อคดีทั้งหมด ดังเช่นคดีบุกยิงกลางงานแต่งในพื้นที่ สน.สุทธิสาร เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 65 เหตุยิง ซอยกำนันแม้น เดือนกรกฎาคม ปี 65 จะถูกนำกลับมาสืบสวนใหม่ทั้งหมด เบื้องต้นข้อมูลพบว่าทั้ง 3 คดีมีความเชื่อมโยงกันเนื่องจากพฤติการณ์ในการก่อเหตุมีลักษณะคล้ายกัน

ส่วนเรื่องประเด็นแม่ของ 1 ผู้ต้องหา ไม่เชื่อว่าลูกชายของตนเองเป็นผู้ร่วมขบวนการ เพราะแค่แม่ด่าลูกยังร้องไห้แล้ว จึงอยากฝากถึงผู้ปกครองว่า อยากดูพฤติกรรมของลูกอย่างละเอียด ว่าลูกมีพฤติกรรมอย่างไรถึงมานั่งบ่นแคร่หรือเก้าอี้ไม้ และการจะถูกยกย่องเป็นถึงผู้นำในขบวนการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย แสดงว่าต้องมีพฤติกรรมที่ทำให้ขบวนการดังกล่าวยกย่องเชื่อถือได้แต่แม่อาจจะไม่มีข้อมูลซึ่งยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ใส่ร้ายใคร

สำหรับรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุที่ ใช้ก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด หลังเกิดเหตุได้มีการเปลี่ยนสีเพื่อตบตาตำรวจใช้ในการหลบหนียังไม่พบแต่อยู่ระหว่างการสืบสวน ส่วนที่เมื่อวานนี้มีเพื่อนของกลุ่มผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวไปเยี่ยมที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ อ้างว่าไม่ได้รู้จักกับขบวนการดังกล่าว แต่กลับให้ข้อมูลผ่านสื่อมวลชน มองว่า บุคคลดังกล่าวน่าจะรู้จักคนภายในและขบวนการนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นตำรวจก็จะต้องมีการเชิญ มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนอย่างแน่นอน

พร้อมขอบคุณชายคนดังกล่าวที่ออกมาระบุว่า ขอให้ “ดูหลักฐานต่อสู้ในชั้นศาล ” เป็นคำพูดในลักษณะที่คล้ายกับตำรวจไม่มีหลักฐานที่จะสามารถเอาผิด ขบวนการดังกล่าวได้นั้น จึงอยากบอกชายและขบวนการคนดังกล่าวว่าตำรวจมีพยานหลักฐาน 100 เปอร์เซ็นต์ที่จะแสดงต่อศาลเอาผิดได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงขอใช้คำพูดน้องคนเมื่อวาน “เดี๋ยวต้องไปดูกันที่ชั้นศาล”

นอกจากนี้การติดตามจับกุม นายวินและนายเลาะ รวมทั้งขบวนการที่เหลือ ตำรวจมีความมั่นใจว่าจะได้ผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน ส่วนรายละเอียดไม่ขอเปิดเผยเพราะคู่กรณีหรือกลุ่มผู้ต้องหา ก็ดูความเคลื่อนไหวของตำรวจอยู่ ส่วน 84 คนรู้เบาะแสทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ก่อนที่ พล.ต.ต.ธีรเดช จะใช้สัญลักษณ์เพียง “ยิ้ม” ให้กับสื่อมวลชนว่า เป็นไปในทิศทางที่ดีและจะสามารถขยายผลทำลายเครือข่ายผู้ที่ร่วมสถาปนาองค์กรอาชญากรรมทั้งหมดได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook