ชีวิตปัจจุบัน หนุ่มหล่อวัย 17 ขายไตซื้อมือถือ ต้องลาออกจากโรงเรียน ป่วยมีแนวโน้มคิดสั้น

ทุกครั้งที่บริษัทเทคโนโลยีแบรนด์โปรดของวัยรุ่น เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มักสร้างความฮือฮาและขึ้นแท่นเป็นสินค้ายอดนิยมได้ในทันที ผู้คนยอมประหยัดเงินเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อเป็นเจ้าของอุปกรณ์เทคโนโลยีสุดเจ๋ง อย่างไรก็ดี กลับมีวัยรุ่นคนหนึ่งที่ตัดสินใจเลือก "วิธีการหาเงิน" ที่ไม่มีใครคาดถึง นั่นคือการขายไตเพื่อซื้อของเหล่านั้น

หลายคนคงจำเรื่องราวของ นายหวัง (นามสมมุติ) เด็กหนุ่มซึ่งเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย แม้แต่ย่านที่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่นั้น ก็ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่ยากจนที่สุดในประเทศจีน แต่เพราะต้องการเป็นเจ้าของเครื่องมือสื่อสารที่มีราคาสูง เมื่อปี พ.ศ. 2554 ในขณะที่เขามีอายุได้ 17 ปี เขาจึงตัดสินใจ "ขายอวัยวะ" เพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าว ในตอนนั้นนายหวังคิดเพียงว่า "ไตเดียวก็เพียงพอแล้ว ทำไมต้องมีอีกไตด้วยล่ะ ทำไมไม่ขายเพื่อหาเงินล่ะ"

หลังจากที่เขาติดต่อคนขายอวัยวะที่บังเอิญเจอทางออนไลน์แล้ว การผ่าตัดผิดกฎหมายก็เกิดขึ้น เด็กชายวัย 17 ปีติดตามผู้ค้าอวัยวะไปยังคลินิกเอกชน เพื่อทำการผ่าตัดนาน 9 ชั่วโมง แลกกับเงิน 22,000 หยวน (ประมาณ 1 แสนบาท) ในเวลาต่อมา ไตซ้ายของนายหวังถูกขายในราคา 220,000 หยวน (มากกว่า 1 ล้านบาท) ซึ่งหมายความว่าเขาได้รับเพียง 10% ของจำนวนเงินเท่านั้น อีกทั้งยังใช้เงินหมดไปอย่างรวดเร็วกับการซื้อโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตจากแบรนด์เดียวกัน

ครอบครัวของนายหวังเกิดความสงสัยทันทีว่าเอาเงินมาจากไหนมาซื้อของเหล่านี้ หลังจากการซักถามอยู่ระยะหนึ่งลูกชายจึงยอมรับว่าขายไตไปแล้ว พ่อแม่แจ้งเรื่องไปยังตำรวจก่อนที่จะสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ 9 คน โดย 5 คน ถูกตั้งข้อหาจงใจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ และการค้าอวัยวะ ครอบครัวขอนายหวังได้รับการชดเชย 1.47 ล้านหยวน (ประมาณ 7.4 ล้านบาท)

อย่างไรก็ดี ในการพิจารณาคดี แม่ของนายหวังยืนยันว่าลูกชายไม่ได้ขายไตเพื่อซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยี “ลูกชายของฉันถูกล่อลวงโดยพ่อค้าอวัยวะผิดกฎหมาย และอาจกลัวที่จะถูกจับได้ว่ามีเงินจำนวนมากขนาดนี้ เขาจึงซื้อโทรศัพท์และแท็บเล็ต”

• จากหนุ่มหล่อสุขภาพดี สู่ผู้ป่วยเก็บตัว

การขายไตส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของนายหวัง เนื่องจากการผ่าตัดใต้ดิน สุขอนามัยที่ไม่ดี และขาดการดูแลหลังการผ่าตัด ไตที่เหลืออยู่ของเขาจึงติดเชื้อด้วย

จากชายหนุ่มหน้าตาดี สูง 191 เซนติเมตร ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี กลับต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะไตวายอย่างรุนแรง ล้มป่วยจนน้ำหนักเหลือเพียง 45 กิโลกรัม เนื่องจากสุขภาพของแย่ลง สุดท้ายต้องลาออกจากโรงเรียน พึ่งพาการดูแลจากครอบครัว และต้องเข้ารับการฟอกไตเป็นประจำเพื่อยื้อชีวิตเอาไว้ เพราะไตที่เหลือไม่สามารถทำหน้าที่ได้

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ชีวิตของนายหวังเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่เพื่อนๆ วัยเดียวกันกำลังไล่ตามความฝันในวัยเยาว์ เขากลับต้องยึดติดอยู่กับเครื่องฟอกไต ยารักษาโรค และไปโรงพยาบาลบ่อยๆ ทั้งนี้ เนื่องจากสุขภาพไม่ดี เขาไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำงานและหาเลี้ยงชีพเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวได้เท่านั้น แต่ยังต้องพึ่งพาการดูแลของพ่อแม่ด้วย

หลังจากเหตุการณ์ "ขายไตซื้อมือถือ" ถูกแชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก นายหวังกลายเป็นหัวข้อสนทนาของทุกคน ตั้งแต่เพื่อนร่วมชั้น ไปจนถึงเพื่อนบ้าน ญาติ แม้แต่ญาติที่ไม่คุ้นเคยเลย ทุกครั้งที่มีการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ เรื่องราวของเขาก็จะถูกหยิบยกมากล่าวถึงซ้ำๆ การโจมตีจากสังคมทำให้เขาปิดใจ ไม่อยากออกไปพบปะคนอื่น สิ่งเดียวที่อยากทำคืออยู่บ้านเล่นเกมออนไลน์ แต่ไม่ว่าเขาจะซ่อนตัวมากแค่ไหน ก็ยังถูกลากเข้าสู่เรื่องซุบซิบอยู่ดี...

แม่ของนายหวัง กล่าวว่า ลูกชายของเธอมีแนวโน้มที่จะยอมแพ้กับตัวเอง และไม่สามารถหลีกหนีจากความหมกมุ่นในเหตุการณ์ขายไตในอดีตได้ เธอหวังว่าจะพบสถานให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา เพื่อช่วยให้ลูกชายฟื้นตัวจากอาการป่วยทางจิตและกลับคืนสู่สังคม หลายครั้งที่ลูกชายบอกกับเธออย่างเศร้าๆ ว่า "แม่ครับ ไตของผมหายไปแล้ว" ซึ่งทำให้เธอมักฝันร้าย ในฝันอวัยวะของลูกชายถูกนำไปขายให้กับสถานที่ที่ไม่รู้จัก

และไม่เพียงแต่นายหวังเท่านั้นที่ต้องเผชิญกับเรื่องต่างๆ แต่พ่อแม่ของเขาก็ยังคงรู้สึกเขินอายเมื่อออกไปข้างนอก บางครั้งไม่กล้าแม้แต่สบตาเพื่อนบ้านด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เมื่อมองย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ บทบาทและความรับผิดชอบของพ่อแม่ก็ไม่อาจละเลยได้

แม่ของนายหวังยังกล่าวอีกว่า ก่อนที่จะมีเรื่องการขายไต แม้ว่าครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็มีความสุขมาก “ตอนที่ลูกชายของฉันเรียนมัธยมต้น เขาเรียนได้ดีมาก ชอบประวัติศาสตร์และกีฬาเป็นพิเศษ เขากระตือรือร้นและร่าเริง ทำให้พ่อแม่ภูมิใจเสมอ”

แต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปในช่วงเรียนมัธยมปลาย ในเวลานั้น คะแนนของนายหวังลดลง หมกมุ่นอยู่กับเกมต่างๆ และยังได้ติดต่อกับคนไม่ดีทางออนไลน์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม พ่อและแม่ยอมรับว่าไม่ได้ใส่ใจลูกของตนอย่างเหมาะสมในขณะนั้น คู่ทำหน้าที่ชี้แนะและให้ความรู้ลูกได้ไม่ดีนัก รวมถึงการสื่อสารกับลูกน้อยเกินไป อีกทั้งในเวลานั้นทั้งคู่ยังมีความคาดหวังสูงเกินไปสำหรับลูกของพวกเขา ซึ่งทำให้ลูกชายกดดันอย่างมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โศกนาฏกรรมที่นายหวังเผชิญ เป็นบทเรียนเตือนใจสำหรับผู้ที่ประมาทและคิดง่ายๆ ในเรื่องสุขภาพ กว่า 10 ปีที่แล้ว นายหวังมีเงินจำนวนมากเพื่อซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยี แต่ตอนนี้เขาต้องจ่ายมากกว่านั้นหลายเท่า เพื่อต่อสู้ให้ยังคงมีชีวิตอยู่ในแต่ละวัน