ลูก 4 ขวบโดนครูทำโทษ ให้ยืน 2 ชั่วโมง ฟังเหตุผลจากครูใหญ่ แม่พาย้ายที่เรียนทันที

เรื่องราวของเด็กชายวัย 4 ขวบในเหอหนาน ประเทศจีน ถูกแชร์อย่างกว้างขวางบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากสมาคมผู้ปกครอง

เป็นที่เข้าใจได้ว่าเด็กดีจะได้รับรางวัล และเด็กไม่ดีบางครั้งอาจจะถูกลงโทษ อย่างไรก็ตาม การลงโทษเด็กอายุ 4 ขวบ ที่ทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในชั้นเรียน ด้วยวิธีการบังคับให้ยืนอยู่ตรงมุมห้องเรียนเป็นเวลา 107 นาที (เกือบ 2 ชั่วโมง) ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 10.47 น. และในช่วงเวลานั้น เด็กไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มน้ำ ไม่อนุญาตให้นั่งพัก ทำได้เพียงยืนนิ่งๆ จนกว่าครูจะอนุญาต

หลังจากกลับจากโรงเรียนเด็กชายก็รู้สึกเสียใจกับตัวเองมาก จนร้องไห้และเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับพ่อแม่ฟัง ผู้เป็นแม่ไม่สามารถควบคุมความโกรธของเธอได้ เธอจึงรีบไปโรงเรียนอนุบาลเพื่อร้องเรียนต่อครูใหญ่ อย่างไรก็ตาม คำอธิบายของครูใหญ่คือ "ครูยังเด็กอยู่มาก ดังนั้นเธอจึงขาดประสบการณ์ ฉันหวังว่าผู้ปกครองจะเห็นอกเห็นใจและปล่อยผ่านไป" เมื่อได้ยินคุณแม่ยิ่งรู้สึกโกรธเคืองมากกว่าเดิม และต้องการเปลี่ยนโรงเรียนให้ลูกชายทันที

แน่นอนว่าในสถานการณ์ที่ลูกต้องเจ็บปวด แต่กลับได้รับคำตอบที่จากครูใหญ่เช่นนี้ ไม่ว่าเป็นผู้ปกครองคนไหนก็คงยากที่จะยอมรับ เพราะความจริงก็คือพ่อแม่ทุกคนรักและเป็นห่วงลูกของตนเอง เมื่อต้องส่งไปโรงเรียนด้วยก็หวังว่าพวกเขาจะมีพัฒนาที่ดี และได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพที่สุด ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น และได้รับการดูแลจากคุณครูที่น่ารัก มีใจเมตตายอมรับว่าเมื่อข้อผิดพลาดของเด็กตัวเล็กๆ

แน่นอนว่าครูมีสิทธิที่จะลงโทษเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ และไม่ทำผิดพลาดในครั้งต่อไป แต่ไม่ว่าจะเป็นการลงโทษหรือการให้รางวัลก็ควรอยู่ในระดับที่ "เหมาะสม" เป็นไปไม่ได้ที่จะสอนเด็กอายุ 4 ขวบ จะแข็งแรงพอที่จะถูกลงโทษให้อดอาหาร-เครื่องดื่ม หรือยืนเป็นเวลานาน เนื่องจากการบังคับให้เด็กเล็กยืนเป็นเวลานานจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย และในขณะเดียวกันก็สร้างความเสียหายอย่างลึกซึ้งต่อจิตใจของเด็กด้วย

เด็กคืออนาคตของประเทศ โรงเรียนอนุบาลคือ “ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ที่หล่อเลี้ยงพัฒนาการของเด็กเล็ก” นั่นเป็นสาเหตุที่สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ไม่ควรกลายเป็นความกลัว สิ่งจะฝังรากลึกลงในกระบวนการเจริญเติบโตของเด็ก กลายเป็นแผลเป็นที่จะรักษาได้ยากในภายหลัง