อึ้ง ท่อนซุงเน่าๆ หลังบ้าน ที่แท้คือของดีราคา 50 ล้าน ใครก็ว่าเฮง แต่เจ้าตัวไม่ขอเอาสักบาท!

อึ้ง ท่อนซุงเน่าๆ หลังบ้าน ที่แท้คือของดีราคา 50 ล้าน ใครก็ว่าเฮง แต่เจ้าตัวไม่ขอเอาสักบาท!

อึ้ง ท่อนซุงเน่าๆ หลังบ้าน ที่แท้คือของดีราคา 50 ล้าน ใครก็ว่าเฮง แต่เจ้าตัวไม่ขอเอาสักบาท!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังบ้านมีท่อนซุงเน่าๆ แปลกใจ ผู้เชี่ยวชาญถึงกับมาดูเอง ก่อนเผยแท้จริงคือสมบัติล้ำค่า มูลค่ามหาศาล

ตามรายงานพบว่า เมื่อหลายปีก่อน ชาวประมงจีนคนหนึ่งไปจับปลาริมทะเลสาบ จู่ๆ ตาข่ายก็ติดอยู่บนท่อนไม้ขนาดใหญ่มาทำให้ต้องต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการนำมันขึ้นฝั่ง นำมันกลับบ้านพร้อมสิ่งต่างๆ และทิ้งไว้ที่สวนหลังบ้านโดยไม่ได้ให้ความสนใจ

กระทั่งผ่านมา 5 ปี ขณะเข้าร่วมกิจกรรมประเมินโบราณวัตถุ ที่จัดขึ้นโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในเมืองอู่ฮั่น ในปี ค.ศ. 2017  และบังเอิญบอกว่ามีท่อนไม้แปลกๆ หนัก 5 ตัน ที่ได้มาจากในแม่น้ำ ซึ่งข้อมูลนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญประหลาดใจและเกิดความสงสัยดังนั้นพวกเขาจึงอนุญาตไปที่บ้านเพื่อดูด้วยตาตัวเอง

หลังจากนั้นผู้เชี่ยวชาญได้นำไม้ชิ้นหนึ่งมาตรวจสอบอย่างละเอียด จากการประเมินพบว่าไม้ท่อนนี้เป็นไม้กฤษณาจากสมัยราชวงศ์หมิงที่มีอายุมากกว่า 600 ปีคุณค่าของมันยิ่งใหญ่มาก ในอดีตไม้นี้มักจะใช้ทำคาน เสา เครื่องเรือน และโลงศพในพระราชวัง ถือได้ว่าเป็น “สมบัติล้ำค่า” และแน่นอนว่ามีมูลค่าสะสมสูงมากอีกด้วย

จากการวิเคราะห์เบื้องต้นโดยผู้เชี่ยวชาญ เป็นไปได้ว่าเนื่องจากเมืองต้องห้ามถูกสร้างขึ้น ไม้นี้จึงถูกขนส่งจากเสฉวนไปยังปักกิ่งทางน้ำ แต่บังเอิญตกลงไปในแม่น้ำแยงซีเกียง และลอยเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่ จนกระทั่งมาติดอวนของชายรายนี้ในที่สุด ซึ่งมูลค่าของมันสูงถึงหลายสิบล้านหยวน ( 10 ล้านหยวน ประมาณ 50 ล้านบาท ตามอัตราค่าเงินปัจจุบัน)

หลังจากที่ชายคนนี้รู้ความจริงเกี่ยวกับสมบัติมูลค่ามหาศาล ที่เขาวางทิ้งไว้ในสนามหญ้าหลังบ้าน เพื่อนๆ ของเขาก็มาแสดงความยินดีกับเขา และบอกว่าเขาโชคดีมาก บางทีในชีวิตบั้นปลายอาจจะไม่ต้องทำงานเป็นชาวประมงอีกต่อไป แต่หลังจากครุ่นคิดมาหลายวัน ในที่สุดชายคนนั้นก็ตัดสินใจบริจาคไม้ซุงให้กับพิพิธภัณฑ์ โดยให้เหตุผลว่า

“เพื่อให้คนอื่นได้รู้เกี่ยวกับต้นไม้ล้ำค่านี้มากขึ้น ผมไม่อยากเห็นคนตัดต้นไม้ล้ำค่าเพียงเพื่อเงิน ดังนั้นจะบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์” ชายคนนั้นกล่าว

การกระทำของชายผู้นี้ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญ และจากผู้คนมากมายในประเทศ เพราะคงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถปล่อยผ่านเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ เพื่ออุทิศสมบัติล้ำค่าให้กับพิพิธภัณฑ์ นำจัดแสดงเป็นนิทรรศการสำหรับคนอื่นๆการกระทำของเขาทำให้คนจำนวนมากมีมุมมองที่แตกต่างกัน ในการอนุรักษ์โบราณวัตถุทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศ

ชายคนนี้บอกด้วยว่า มันเป็นของขวัญจากธรรมชาติและประวัติศาสตร์ และเขาเป็นเพียงผู้โชคดีที่ได้รับมัน  แต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของสิ่งของล้ำค่านี้ ดังนั้น การส่งกลับไปอยู่ในความดูแลของประเทศ คือสิ่งที่เขาควรทำเพื่อพัฒนาวัฒนธรรมของชาติและอนุรักษ์โบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook