กระบะชนดับ 8 ศพ ดับอนาถเกลื่อนหน้าวัด คนขับยอมรับว่าเมา กลับจากกินเหล้างานกฐิน

กระบะชนดับ 9 ศพ ดับอนาถเกลื่อนหน้าวัด บาดเจ็บอีกเพียบ คนขับยอมรับว่าเมา กลับจากกินเหล้างานกฐิน 

เมื่อเวลา 22.15 น. วันที่ 25 พ.ย. 2566 พ.ต.อ.รัชยุทธ ศักดิ์ระพี ผกก.สภ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุรถปิกอัพชนกับรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณถนนหน้าวัดสำโรงพลัน หมู่ที่ 1 บ้านสำโรงพลัน ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายพะเนตร อุทัยรังษี นายอำเภอไพรบึง ร.ต.อ.นพดล อินทร์ทอง ร้อยเวรสอบสวน สภ.ไพรบึง เจ้าหน้าที่ รพ.ไพรบึง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย สว่างจิตต์จุดขุนหาญ สว่างจิตต์จุดขุขันธ์ สว่างจิตต์จุดไพรบึง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 2231 อุดรธานี พลิกคว่ำอยู่กลางถนน และใกล้กันบริเวณข้างทางติดกำแพงวัดพบว่ามีรถจักรยานยนต์ จำนวน 9 คัน ที่จอดอยู่บริเวณฟุตปาธข้างวัด โดนชนล้มระเนระนาด กำแพงวัดโดนรถยนต์ชนพังทะลุ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ดังนั้น จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตส่งไปยัง รพ.ไพรบึง พบคนขับรถปิกอัพคันเกิดเหตุยืนอยู่ข้างรถ จึงได้ควบคุมตัวเอาไว้และนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ไพรบึง

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายมีจำนวนทั้งสิ้น 9 คัน รถยนต์ปิกอัพ 1 คัน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 8 ราย 

พ.ต.อ.รัชยุทธ ศักดิ์ระพี ผกก.สภ.ไพรบึง กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ขับขี่รถปิกอัพที่เกิดเหตุชื่อ นายเกียรติศักดิ์ อายุ 37 ปี ชาว จ.หนองคาย ก่อนเกิดเหตุ ได้ไปดื่มสุราในงานกฐินที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ นายเกียรติศักดิ์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้ดื่มสุรา ทำให้เมาหนักมาก

จากนั้น ได้ขับขี่รถคันเกิดเหตุเพื่อมุ่งหน้าเข้าไปยังตัว จ.ศรีสะเกษ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เกิดอาการวูบหลับ ทำให้รถเสียหลักไปพุ่งชนรถยนต์ปิกอัพที่อยู่ข้างทาง รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่มีคนนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์และยืนจับกลุ่มกันอยู่เพื่อดูหนังอยู่ข้างถนน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาว่า ขับขี่รถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ขับขี่รถขณะเมาสุรา ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป