สาวใหญ่เป็นปลื้ม เผยเส้นทางรักกับสามีหล่อรุ่นลูก ตามตื๊ออยากแต่งงาน “ตอบแทนบุญคุณ”

รุ่นใหญ่เป็นปลื้ม ได้สามีหล่อรุ่นลูก ตามตื๊อขอแต่งงาน “ตอบแทนบุญคุณ” เล่าหมดเคยช่วยอะไรไว้บ้าง

การตอบแทนความเมตตาเป็นคุณธรรมดั้งเดิม ซึ่งไม่เพียงสะท้อนถึงมโนธรรมและระดับศีลธรรมของผู้คนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทัศนคติเชิงบวกต่อชีวิตด้วย มีคนและสิ่งของมากมายในชีวิตของเราที่สมควรได้รับความกตัญญู และวิธีที่ดีที่สุดในการตอบแทนสิ่งเหล่านั้นคือ การพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะเติบโต และทำให้ตัวเราดีขึ้นและมีคุณค่ามากขึ้น

ล่าสุด มีเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอเปิดเผยเส้นทางความรัก โดยบอกว่าเธออายุ 50 ปีแล้ว ส่วนสามีของเธออายุเพียง 26 ปีเท่านั้น เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาก แต่ยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่วัวแก่กินหญ้าอ่อน เนื่องจากการชีวิตแต่งงานของเธอและสามีมีจุดเริ่มต้นมาจาก… สามีต้องการกลับมาแสดงความขอบคุณ

ปรากฏว่าเมื่อตอนที่สามียังเรียนหนังสือ เขาเป็นนักเรียนยากจน ครอบครัวฐานะไม่ดี ในขณะที่เธอในตอนนั้นทำธุรกิจหาเงินได้เองแล้ว จึงกลับไปที่โรงเรียนเก่าและบริจาคเงินช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน ซึ่งบังเอิญว่าหนึ่งในนั้นคือสามีคนปัจจุบันของเธอ หลังจากเขาเรียนจบก็เริ่มตามหาหญิงสาวผู้มีพระคุณ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะพบเธอ

ต่อมา เมื่อฝ่ายชายได้รู้ว่าผู้มีพระคุณยังโสดอยู่ ดังนั้น เขาจึงกล้าตัดสินใจตอบแทนเธอด้วยร่างกายของตัวเอง อย่างไรก็ดี ตอนแรกเธอไม่เห็นด้วย เพราะอายุห่างกันมากๆ และเธอก็แก่แล้ว แต่สุดท้ายกลับทนคำพูดที่หนักแน่นของอีกฝ่ายไม่ไหว และความรักก็เริ่มพัฒนาขึ้น

ซึ่งฝ่ายหญิงยังบอกด้วยว่า พ่อแม่ของสามีเองก็ยังแสดงออกว่าสามารถยอมรับวิธีการ “ตอบแทน” ความเมตตาในแบบของลูกชายได้ ดังนั้นทั้งสองจึงแต่งงานกันเมื่อเร็วๆ นี้ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวความรักต่างวัยนี้ถูกบอกเล่าออกมา กลับทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในหมู่ชาวเน็ต  บางคนคิดว่าชายหนุ่มไม่ได้ต้องการตอบแทนความเมตตา แต่แต่งกับถรรยาที่ร่ำรวยเพราะมีจุดประสงค์อื่นใด

“ชายวัย 26 ปี แต่งงานกับหญิงวัย 50 ปี เพื่อตอบแทนบุญคุณเนี่ยนะ?”

"ของดีๆ แบบนี้จะมีได้ที่ไหนอีก ช่วยแนะนำหน่อยครับ ผมก็อยากหาผู้หญิงรวยๆ แบบนี้ มาตอบแทนบุญคุณด้วย ทำไมผมถึงไม่มีโชคแบบนี้บ้างล่ะ?”

อย่างไรก็ดี ยังมีบางคนที่เชื่อว่าผู้ชายทำแบบนี้ก็ถูกแล้ว การเรียนรู้ที่จะสำนึกบุญคุณ การตอบแทนความเมตตาไม่ว่าคุณจะใช้วิธีไหน มันก็ดีทั้งนั้น เราควรใช้สิ่งที่มีค่าที่สุดเพื่อตอบแทนความเมตตาของผู้อื่น เพราะความเมตตาบางอย่างวัดกันไม่ได้ด้วยวัตถุ แต่ตอบแทนได้ด้วยความจริงใจเท่านั้น

ทั้งนี้ นอกจากจะควรตอบแทนผู้ที่ช่วยเหลือเราด้วยใจสำนึกบุญคุณ และขณะเดียวกันก็ควรใช้การกระทำของเราเพื่อช่วยเหลือผู้ขัดสน และปล่อยให้น้ำใจนี้สืบทอดต่อไป