แม่สะดุ้ง ลูกแผดเสียงจ้า ร้องเจ็บ "สร้อยทอง" รัดข้อมือ แต่มองชัดๆ มันไม่ใช่สร้อย!

 ไม่มีความสมบูรณ์แบบในการเป็นพ่อแม่ และความจริงในชีวิตประจำวัน มีสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อเด็กซึ่งพ่อแม่ไม่สามารถคาดเดาได้อยู่เสมอ หากประมาทหรือคาดสายตาไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เด็กอาจตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายได้ตลอดเวลา

เด็กเล็กๆ โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ที่ยังไม่สามารถรับรู้ได้ครบถ้วน จะไม่สามารถแยกแยะได้ระหว่างสิ่งที่ควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ สิ่งใดปลอดภัย  หรืออันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง  นั่นคือเหตุผลว่าทำไมกระบวนการดูแลลูกในระยะนี้ ผู้ปกครองจึงต้องเอาใจใส่ มีความพิถีพิถัน และระมัดระวังเป็นพิเศษ

ดังเช่นกรณีของเด็กหญิงวัย 2 ขวบในเซินเจิ้น ประเทศจีน ที่เล่นคนเดียวในห้องนั่งเล่น ขณะที่แม่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวอย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน จู่ๆ เด็กน้อยก็ร้องไห้เสียงดัง และเรียกหาแม่เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งแม่ก็รีบออกมาตรวจสอบทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว

ลูกสาวเห็นแม่ก็รีบยื่นแขนข้างหนึ่งที่มี "สร้อยข้อมือทองคำ" สวมอยู่บนข้อมือให้ดูทันที ผู้เป็นแม่ได้เห็นชัดๆ ก็ตกใจมากเพราะแท้จริงแล้วบนข้อมือกำลังถูกมัดไว้ด้วย “ยางสีเหลือง” จำนวนหลายเส้น รัดแน่นจนผิวหนังและเนื้อนุ่มๆ เริ่มบวม และแน่นอนว่าเลือดไหลเวียนไม่ได้ตามปกติ ทำให้รู้สึกไม่สบายและเจ็บปวด จึงร้องไห้เรียกให้แม่มาช่วย

เมื่อเห็นร่องรอยบนข้อมือของลูกสาว ที่เกิดจากความซุกซนตามวัยของเจ้าตัว แม่ก็ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้โกรธหรือดุเพราะรู้ว่าลูกยังเด็กอยู่ ดังนั้นเธอจึงแค่ปลอบโยนและค่อยๆ ดึงยางแต่ละเส้นออกจากข้อมือ จากนั้นจึงทายาเล็กน้อยเพื่อบรรเทาอาการแดงบนผิวหนังของเด็กน้อย

ตามความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับเด็กหลายคน ในกรณีที่ไม่รุนแรงก็ทิ้งผลกระทบเล็กน้อยเอาไว้เท่านั้น แต่หากความเสียหายนั้นเป็นอันตรายอย่างมาก เด็กๆ ก็มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับผลที่ตามมาร้ายแรงมากมาย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อร่างกายและสุขภาพของพวกเขา