ย้อนรอย 33 ปี โศกนาฏกรรม "รถแก๊สระเบิด" ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ทะเลเพลิงกลางกรุง
ย้อนรอย 33 ปี โศกนาฏกรรม "รถแก๊สระเบิด" ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กลายเป็นทะเลเพลิงกลางกรุง คนตายเกือบร้อยชีวิต
เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 29 พ.ย.2566 ศูนย์วิทยุพระราม 199 และสายด่วน 199 รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ บริเวณซอยพระรามที่ 3 ซอย 1 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กทม. เบื้องต้นรถที่เกิดเหตุเป็นกระบะบรรทุกถังแก๊ส โดยเกิดระเบิดขึ้นเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยยานนาวา ควบคุมเพลิงสงบ และเจ้าหน้าที่ใช้น้ำระบายความร้อน
จากเหตุดังกล่าว ทำให้หลายคนย้อนคิดถึงอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ที่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากอย่าง เหตุการณ์แก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งความสูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นยังฝังอยู่ในใจครอบครัวรวมถึงผู้คนในสังคม
ย้อนรอย เหตุการณ์แก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ปี 2533
เป็นอุบัติเหตุแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ในคืนวันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2533 มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก นับเป็นข่าวอุบัติเหตุที่ครึกโครมที่สุดในสมัยนั้น
เหตุเกิดเวลาประมาณ 22.00 น. รถบรรทุกแก๊สที่ขับโดยนายสุทัน ฝักแคเล็ก พยายามขับลงทางด่วนเพชรบุรีตัดใหม่ด้วยความเร็วเพื่อให้พ้นไฟแดง แต่รถได้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ จากนั้นตัวรถได้ไถลไปกับพื้น ด้วยแรงเสียดสีกับพื้นถนน ทำให้ถังบรรจุแก๊สรูปแคปซูล 2 ถัง ถังละ 20,000 ลิตร หลุดออกจากตัวรถ และเกิดเป็นความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการเพิ่มแรงอัดให้กับแก๊สที่บรรจุอยู่ภายในถังเหล็กไม่อาจทนแรงเสียดสีได้ปริแตก แก๊สที่บรรจุอยู่ภายในได้พวยพุ่งออกมาและเกิดเป็นประกายไฟและระเบิดเสียงดังหลายครั้ง ทำให้บริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่และละแวกใกล้เคียงกลายเป็นทะเลเพลิงในไม่กี่วินาที
ไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็วและคลอกผู้คนที่ติดอยู่ในรถยนต์ซึ่งกำลังติดไฟแดงอยู่ ณ บริเวณนั้น หลายรายเสียชีวิตทันที บางรายก็เสียชีวิตในรถเนื่องจากสำลักควัน บางคนที่สามารถหนีออกมาได้ ก็อยู่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส เนื้อตัวเป็นแผลพุผองจากเปลวไฟ ขณะเดียวกันถังแก๊สอีกถังที่ยังติดอยู่กับตัวรถไม่อาจทนทานความร้อนได้ ก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง ตึกแถวสองฟากถนนเกิดไฟลุกท่วม และลามไปติดแผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เกิดเป็นลูกไฟสูงท่วมตึกสามชั้น หม้อแปลงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ข้างถนนเกิดช็อตกระแสไฟถูกตัดขาด ทำให้เกิดไฟดับ และเกิดเป็นลูกไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสีแดงฉาน ผู้คนที่อาศัยอยู่ตามบ้านเรือนบริเวณนั้นและละแวกใกล้เคียงรวมทั้งชุมนุมแออัดนับ 100 หลังคาเรือน ต่างพากันพยายามหลบหนีเอาชีวิตรอด
โดยไฟยังคงไหม้ต่อเนื่องนานนับชั่วโมงเจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ชีพ และตำรวจดับเพลิงพยายามฉีดน้ำสกัดกั้น แต่เป็นเรื่องยากที่จะทำได้ เพราะแก๊สได้ฟุ้งกระจายไปในอากาศ เพลิงมาสงบเอาในเวลา 22.00 น. ของคืนต่อมา
ศาลฎีกาบรรยายเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้ในคำพิพากษาว่า "...เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2533 เวลาประมาณ 22 นาฬิกา นายสุทัน ฝักแคเล็ก ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกก๊าซคันเกิดเหตุลงจากทางด่วนมาที่ถนนเพชรบุรีด้วยความเร็วเพื่อเร่งให้พ้นสัญญาไฟจราจรที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นสัญญาไฟแดง นายสุทันเลี้ยวรถไปทางด้านขวามุ่งหน้าจะไปสี่แยกมักกะสัน แต่รถยนต์บรรทุกก๊าซคันเกิดเหตุพลิกตะแคงครูดไปกับพื้นถนนจนถึงหน้าอาคารหอพักริมถนนเพชรบุรี ถังบรรจุก๊าซสองถังหลุดออกจากตัวรถ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอล.พี.จี.) ที่บรรทุกมารั่วแผ่กระจายเป็นบริเวณกว้าง แล้วระเบิดเกิดเพลิงลุกไหม้
นายสุทันถึงแก่ความตายในรถ เพลิงลุกลามไหม้บ้านเรือนในชุมชนแออัดซึ่งอยู่ด้านซ้ายของถนนเพชรบุรีเสียหาย ไหม้ตึกแถวด้านซ้ายและขวาของถนนเพชรบุรีจำนวน 51 ห้อง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดอยู่ในถนนเพชรบุรีตั้งแต่แยกทางด่วนถึงแยกถนนวิทยุเสียหายประมาณ 67 คัน และจากเพลิงไหม้ดังกล่าวเป็นเหตุให้มีบุคคลถึงแก่ความตาย 92 คน ได้รับอันตรายสาหัสร้อยกว่าคน ค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 214,926,282 บาท
รถบรรทุกแก๊สคันนี้ ไม่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดไว้คือ ไม่มีข้อต่อระหว่างถังแก๊สกับตัวรถ ซึ่งข้อต่อดังกล่าวมีประโยชน์ในการยึดติดกับตัวรถ ไม่ให้เคลื่อนตัวหรือหล่นลงมาจนเกิดอันตราย
นอกจากนี้ยังไม่มีสายรัดถังแก๊สเหมือนกับที่รถบรรทุกแก๊สทั่ว ๆ ไปใช้กัน เหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนี้ นพ.ประจักษวิช เล็บนาค ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เหยื่อแก๊สระเบิด สัมภาษณ์ในรายการ ละครแห่งชีวิต (รายการโทรทัศน์) ออกอากาศปี 2537 ภายหลังได้ถูกหยิบยกมาเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง "คนเห็นผี" ในปี พ.ศ. 2545