ย้อนดูคดี "สว.อุปกิต" จากถูกกล่าวหาเอี่ยวฟอกเงิน-ค้ายา สู่โดนอายัดทรัพย์กว่า 285 ล้าน

ย้อนดูคดี "สว.อุปกิต" จากถูกกล่าวหาเอี่ยวฟอกเงิน-ค้ายา สู่โดนอายัดทรัพย์กว่า 285 ล้าน

ย้อนดูคดี "สว.อุปกิต" จากถูกกล่าวหาเอี่ยวฟอกเงิน-ค้ายา สู่โดนอายัดทรัพย์กว่า 285 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชื่อของ “อุปกิต ปาจรียางกูร” สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง หลังจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าการยึดอายัดทรัพย์สินของ สว.อุปกิต ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 285 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศพม่า 

แล้วคดีดังที่กำลังได้รับความสนใจนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร Sanook ย้อนดูคดีของ สว.อุปกิต หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “สว.ทรงเอ” ที่รังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ได้ระบุในที่ประชุมรัฐสภาว่ามีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดและฟอกเงินของ “ตุน มิน หลัด” จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่ประชาชนให้ความสนใจ 

สว.อุปกิตเอี่ยวพ่อค้ายาชาวเมียนมา

วันที่ 17 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุม “ตุน มิน หลัด” นักธุรกิจชาวเมียนมาในข้อหาสมคบคิดค้ายาเสพติดและฟอกเงิน พร้อมกับผู้ต้องหาคนอื่นอีก 3 คน โดยผู้ต้องหาบางคนได้ซักทอดว่า สว.อุปกิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด และในเวลาต่อมา สว.อุปกิตก็ออกมายืนยันว่าตนเองรู้จักกับนักธุรกิจเมียนมาคนดังกล่าวจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

สส.รังสิมันต์อภิปราย สว.อุปกิต

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 รังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นอภิปรายกรณีการจับกุมตุน มิน หลัด นักธุรกิจชาวเมียนมา ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับ สว.อุปกิต ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. ระบุว่าขบวนการค้ายาเสพติดของตุน มิน หลัด ได้ทำธุรกรรมผ่านบริษัทที่ สว.อุปกิต เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง พร้อมพบความผิดปกติในการขายหุ้น และลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด

พร้อมกันนี้ สส.รังสิมันต์ ยังได้กล่าวถึงความพยายามขัดขวางการดำเนินคดีต่อ สว.อุปกิต ที่แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอหมายจับในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและการฟอกเงิน ศาลอนุมัติแล้ว แต่กลับมีการเรียกให้ไปถอนหมายจับและคดีก็ไม่คืบหน้า ก่อนที่จะมีเอกสารคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมหลุดออกมา

สว.อุปกิต ส่งทนายฟ้องรังสิมันต์

สว.อุปกิต ได้ออกมาแถลงพร้อมน้ำตา ระบุว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกกล่าวหา และเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นการกลั่นแกล้งเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ก่อนที่เขาจะส่งทนายความเป็นตัวแทน ไปฟ้องร้อง สส.รังสิมันต์ ในข้อหา “หมิ่นประมาท” เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท เช่นเดียวกับยื่นฟ้อง 2 ผู้ดำเนินรายการในข้อหาเดียวกัน เรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน และฟ้องอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท

หลุดเอกสารชี้แจงการขอหมายจับ สว.อุปกิต

ต่อมา มีเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องขอออกหมายจับ สว.อุปกิต ของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ หนึ่งในชุดจับกุมทุน  มิน หลัด หลุดออกมาสู่สาธารณชน ระบุว่า ผู้ต้องหาให้การว่า สว.อุปกิต มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการ ตำรวจจึงทำเอกสารเพื่อขอออกหมายจับ ซึ่งผู้พิพากษาก็ได้อนุมัติหมายจับและหมายค้นให้ แต่กลับมีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ศาลให้เข้าพบรองอธิบดีผู้พิพากษาศาล ที่ขอให้ตำรวจถอนหมายจับ แต่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ได้ปฏิเสธ แต่สุดท้ายอธิบดีศาลอาญาก็ได้ถอนหมายจับไป

อย่างไรก็ตาม คดีความดังกล่าวกลับไม่มีความคืบหน้า และพ.ต.ท.มานะพงษ์ ก็ถูกย้ายไปรับตำแหน่งอื่นๆ เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอีก 

คดีที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก

สำนักงานอัยการสูงสุดได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าของคดีของ สว.อุปกิต แต่ก็มีการเลื่อนการสั่งฟ้องจากวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ไปเป็นวันที่ 28 สิงหาคม 2566 แล้วก็เลื่อนอีกครั้งไปเป็นวันที่ 12 ตุลาคม 2566 เนื่องจาก สว.อุปกิตได้อ้างเอกสิทธิ์การคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ทว่า ก่อนการนัดฟังคำสั่งอัยการ ที่ประชุมวุฒิสภาก็มีมติเสียงข้างมาก ไม่เห็นด้วยกับการส่งตัว สว.อุปกิต ให้พนักงานสอบสวน

แต่ก็มีข้อมูลหลุดออกมาว่า สว.อุปกิต จะถูกนำตัวไปสั่งฟ้องวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ซึ่งจะตรงกับการเปิดสมัยประชุม แล้ว สว.อุปกิต ก็จะได้เอกสิทธิ์คุ้มครองอีกครั้ง ซึ่งต่อมาโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นคนออกมาเปิดเผยว่า สว.อุปกิต เป็นคนขอเลื่อนนัดส่งฟ้องจากวันที่ 3 พฤศจิกายนเป็นวันที่ 26 ธันวาคมเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook