สั่งฝังกลบซากกระทงยี่เป็ง 33 ตัน เผยเหตุงดคัดแยกทำปุ๋ย หวั่นเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ

เชียงใหม่สั่งฝังกลบซากกระทง 33 ตัน เผยเหตุงดคัดแยกทำปุ๋ย หวั่นเจ้าหน้าที่บาดเจ็บจากวัสดุที่ใช้ทำกระทง

วันนี้ (1 ธ.ค.66) นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำหน่วยงานเกี่ยวข้องพร้อมด้วยเยาวชนและจิตอาสา ร่วมจัดเก็บซากกระทงและขยะมูลฝอยในแม่น้ำปิงจากประเณียี่เป็ง ตามโครงการ “เมืองสะอาด คนในชาติมีสุข” โดยซากกระทงและขยะมูลฝอยทั้งหมดตลอดช่วงสามวันของประเพณียี่เป็ง 26-28 พฤศจิกายน ถูกดักเก็บไว้บริเวณประตูระบายน้ำป่า ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ในปีนี้มีซากกระทงอยู่ที่ประมาณ 52,000 ชิ้น หรือ คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 33 ตัน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วที่มี 25 ตัน

นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กระทงที่อยู่บริเวณจุดนี้ คาดว่าจะใช้เวลาในการจัดเก็บและทำความสะอาดเพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติไม่เกิน 2 วัน ส่วนในพื้นที่โซนอื่น ๆ โดยเฉพาะทางตอนเหนือของแม่น้ำปิงได้แจ้งให้หน่วยงานระดับท้องถิ่นให้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้ เพื่อเก็บกวาดซากกระทงที่ยังไม่ลอยมายังบริเวณประตูน้ำแห่งนี้

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปีนี้กระทงส่วนใหญ่ใช้วัสดุจากธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น 98 เปอร์เซ็นต์และมีวัสดุอื่นๆ เพียง 2 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับว่ากระทงจากวัสดุธรรมชาติยังมีการใช้หมุด เข็มกลัดและวัสดุอื่นๆ มาใช้ทำกระทง ทำให้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการกำจัด โดยในปีที่ผ่านๆ มาพบว่าเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บถูกตะปู เข็มหมุดตำขณะคัดแยก ซากกระทงและขยะมูลฝอยทั้งหมดที่ดำเนินการเก็บกวาดขึ้นในครั้งนี้ จะนำไปดำเนินการกำจัดด้วยการฝังกลบทั้งหมด เนื่องจากช่วงสามสี่ปีก่อนที่มีการคัดแยกไปทำปุ๋ยชีวภาพ แต่กลับพบว่าทางเจ้าหน้าที่ต้องประสบกับปัญหา ถูกเข็มหมุดและตะปูตำจนบาดเจ็บ

ในปีนี้จะมีการเก็บภาพตัวอย่างเพื่อสื่อสารออกไปให้ประชาชนและสังคมได้รับรู้ว่า วัสดุเหล่านี้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการกำจัด พร้อมขอความร่วมมือด้วยว่าในการจัดงานปีต่อๆ ไป ขอให้เน้นในเรื่องของการใช้วัสดุชีวะมวลหรือวัสดุที่ทำมาจากธรรมชาติ เพื่อง่ายและสะดวกต่อการจัดการเพื่อเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายและเพื่อให้เกิดความสมดุลมากที่สุด