เมียไม่ยอมให้ผัวขายบ้าน ไปช่วยแม่ผัวที่ป่วยมะเร็ง เล่าเบื้องลึกในครอบครัว มีแต่คนเห็นใจ

เมียไม่ยอมให้ผัวขายบ้าน เพื่อเอามายื้อชีวิตแม่ป่วยมะเร็ง โดนด่าไม่กตัญญูและเนรคุณ เล่าเบื้องลึกในครอบครัว มีแต่คนเข้าข้างฝ่ายภรรยา

หลังจากกู้ยืมเงินจากญาติและเพื่อนฝูงทั้งหมดแล้ว สามีขอให้ภรรยาขายบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่เพื่อต่อชีวิตแม่ของเขา เมื่อภรรยาปฏิเสธข้อเสนอนี้ เขาก็ดุเธอว่าไม่กตัญญูและเนรคุณ

เว็บไซต์ docnhanh รายงานว่า ผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ได้โพสต์เกี่ยวกับสถานการณ์ของครอบครัวเธอว่า แม่สามีป่วยเป็นมะเร็งและตอนนี้สามีต้องการขายบ้านเพื่อยืดอายุแม่ของเขา

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของสามี เธอคิดว่าเงินบำนาญของพ่อแม่สามีหมดไป และครอบครัวก็ใช้เงินไปมากมาย แล้วจะขายบ้านหลังเดียวของเธอได้อย่างไร และครอบครัวจะอยู่รอดได้อย่างไร

ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกคนเดียวในครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเมือง เธอไม่รวย แต่มีบ้านและรถยนต์ สามีของเธอเกิดและเติบโตในชนบท พ่อแม่ของเขาเป็นชาวนา ก่อนหน้านี้ พ่อแม่ของเธอไม่สนับสนุนการแต่งงานครั้งนี้ แต่เนื่องจากลูกสาวของพวกเขาตัดสินใจแล้ว พวกเขาจึงยินยอม

เมื่อทั้งสองครอบครัวคุยกันเรื่องการแต่งงาน พ่อตาของเธอล้มป่วยหนัก เงินออมของครอบครัวหมดลง และครอบครัวของสามีของเธอไม่สามารถจ่ายค่าจัดงานแต่งงานได้แม้แต่บาทเดียว แต่เนื่องจากเธอรักผู้ชายของเธอมาก เธอจึงยืนกรานที่จะจดทะเบียนสมรสกับเขา แม้ว่าจะไม่มีงานแต่งงาน ไม่มีการจัดงานแต่งงาน และไม่มีค่าสินสอด ชุดแต่งงาน หรือแหวนแต่งงานก็ตาม

ซึ่งหลังจากกู้ยืมเงินจากญาติและเพื่อนฝูงทั้งหมดแล้ว สามีคนนี้ขอให้ภรรยาขายบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่เพื่อยืดอายุแม่ของเขา เมื่อภรรยาของเขาปฏิเสธข้อเสนอนี้ เขาก็ดุเธอว่าไม่กตัญญูและเนรคุณ
ชีวิตของทุกคนต้องผ่านความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ว่ารวยหรือจน สุดท้ายก็หนีไม่พ้นกฎข้อนี้

หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้ว ทั้งสองครอบครัวก็ทานอาหารร่วมกัน และทั้งคู่ก็ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่พ่อแม่ของเธอให้มา ทุกครั้งที่เธอนึกถึงงานแต่งงานเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ในตอนแรกสามีของเธอรู้สึกว่าเขาติดหนี้งานแต่งงานของภรรยา แต่เขาก็ค่อย ๆ หมดความอดทนเมื่อเห็นภรรยาของเขาพูดเช่นนี้ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์

หลังจากแต่งงานและมีลูก ทั้งคู่รู้สึกว่าบ้านแคบเกินไปจึงพยายามเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านหลังใหญ่ขึ้น พวกเขาเก็บเงินไว้เป็นเวลา 3 ปี กระทั่งเมื่อแม่สามีพบว่าเธอเป็นมะเร็ง ในเวลาเพียง 1 ปี เงินออมของพวกเขาก็หมดลง และทั้งคู่ยังคงเป็นหนี้อยู่ 200,000 หยวน (ประมาณ 986,000 บาท)

ทุกเดือนทันทีที่เธอได้รับเงินเดือน สามีจะรีบโอนเงินกลับไปให้พ่อแม่เพื่อรักษาต่อไป เธอและสามีก็ยืมมาจากทุกที่และรูดบัตรเครดิตด้วย เมื่อเธอไม่มีทางเลือกอื่น เธอยังยืมเงิน 200,000 หยวน (ประมาณ 986,000 บาท) จากพ่อแม่ของเธอเพื่อชำระหนี้

หลังจากใช้จ่ายไป 500,000 หยวน (ประมาณ 2,465,000 บาท) อาการของแม่สามีดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็กลับมาเป็นซ้ำอีกครั้งในเวลาไม่ถึงเดือน แพทย์ถามครอบครัวว่าจะรักษาต่อเพื่อรักษาชีวิตของเธอหรือพาเธอกลับบ้าน

แม้ว่าเธอจะใช้เงินเก็บทั้งหมดและยังมีหนี้อยู่เป็นจำนวนมาก แต่สามีของเธอก็ปฏิเสธที่จะยอมแพ้อย่างเด็ดเดี่ยว เขาบอกว่าเมื่อเขายอมแพ้ เขาจะไม่มีแม่ในโลกนี้อีกต่อไป แม้ว่าจะมีโอกาสเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ เขาก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้

การที่แม่สามีต้องกินยาอย่างต่อเนื่องหมายถึงการใช้เงินเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ยืมมาจากเพื่อนและญาติ ๆ สามีจึงขอให้ภรรยาขายบ้านเพื่อหาเงินมาช่วยแม่

อย่างไรก็ตาม ภรรยาเชื่อว่าการเพิ่มเงินเป็นเพียงการพยายามรักษาชีวิตให้ยืนยาวขึ้นอีกหน่อย การทำต่อไปมีแต่จะทำให้เกิดการสูญเสียทั้งเธอและครอบครัว อาการป่วยของแม่สามีไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ลูก ๆ ของเธออาจเสี่ยงที่ต้องเร่ร่อนเนื่องจากไม่มีบ้านอีกต่อไป ทันทีที่เธอพูดความคิดของเขา สามีของเธอก็ดุภรรยาของเขาด้วยความโกรธที่ทำตัวไม่กตัญญูและเนรคุณ

หลังจากแชร์เรื่องราวของหญิงสาวบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เธอก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คอมเมนต์แสดงความเห็นมากมาย แต่ต่างเชื่อว่าสามีภรรยาควรคุยกันอย่างใจเย็นเพื่อหาแผนการที่สมเหตุสมผลที่สุด

“เสียใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คุณจะเฝ้าดูแม่ของคุณจากไปแบบนั้นได้อย่างไร? แต่ภรรยาก็มีเหตุผลเช่นกัน ถ้าโรคนี้รักษาไม่ได้ การขายบ้านอย่างดื้อรั้น คุณจะต้องทนทุกข์ทรมานต่อไปในอนาคต”

“คุณและสามีควรนั่งอยู่ด้วยกันอย่างสงบและพิจารณาชีวิตของลูก สามีอาจจะสับสนมากแต่ก็ไม่ควรทำร้ายจิตใจภรรยาเพราะเหตุนั้น”

“โดยพื้นฐานแล้วไม่ใช่บ้านของสามี แต่ถ้าเขาอยากขาย เขาจะดุภรรยาแบบนั้นได้เหรอ? ฉันรู้ว่าเขารักแม่ แต่เขาไม่คิดถึงลูก ๆ ของเขาเลยเหรอ?”