หนุ่มออกทีวีเล่า เมียหนีไปกับพี่เขย ทิ้งลูก 10 ขวบไว้ให้ แต่ผล DNA เผยความลับใจพังอีก

หนุ่มออกทีวีเล่า เมียหนีไปกับพี่เขย ทิ้งลูก 10 ขวบไว้ให้ แต่ผล DNA เผยความลับใจพังอีก

หนุ่มออกทีวีเล่า เมียหนีไปกับพี่เขย ทิ้งลูก 10 ขวบไว้ให้ แต่ผล DNA เผยความลับใจพังอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่องราวที่ทำเอาผู้ชมหลั่งน้ำตา เมื่อ นายเอ (นามสมมุติ) จากมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ปรากฎตัวในรายการโทรทัศน์ บอกเล่าชีวิตหลังแต่งงานและมีลูกชายวัย 10 ขวบ เดิมทีชีวิตสงบสุข แต่อุบัติเหตุครั้งเดียวได้เปลี่ยนชะตากรรมของเขาไปจนสิ้น

ตามรายงานพบว่า เมื่อไม่กี่ปีก่อนเกิดเหตุรถบรรทุกชนเข้ากับกำแพงบ้านของนายเอ คนขับขอให้ไปที่บ้านเพื่อหารือกันเรื่องค่าสินไหมทดแทน เขาและพี่เขยจึงไปที่บ้านคนขับด้วยกัน แต่อีกฝ่ายกลับเบือนหน้าหนี ปฏิเสธที่จะชดเชย แถมยังพูดหยาบคายและตั้งท่าจะใช้ความรุนแรง ความขัดแย้งที่ตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาหงุดหงิด  ด้วยกลัวว่าพี่เขยจะบาดเจ็บ เขาจึงรีบถือไม้เข้าไปขวางด้วยความโกรธ สุดท้ายเรื่องจบลงโดยที่พี่เขยไม่เป็นอะไร แต่เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาเจตนาทำร้ายร่างกาย และถูกส่งตัวเข้าคุก

ไม่กี่ปีต่อมานายเอก็ได้รับการปล่อยตัวจากคุก เขาแปลกใจที่เห็นว่าทุกอย่างในครอบครัวเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พี่สาวของเขามีอาการป่วยทางจิต ส่วนพี่เขยก็ออกจากบ้านไปพร้อมกับภรรยาของเขา ด้วยความโกรธเขาจึงไปยังสถานที่ที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ และพบว่าพวกเขามีลูกด้วยกันแล้ว และนี่อาจเป็นเหตุผลที่เธอไม่เคยไปเยี่ยมเขาสักครั้ง แม้จะโกรธมากๆ แต่เขาไม่ต้องการสร้างเรื่องใหญ่จนต้องติดคุกอีก เพราะเขายังมีพ่อแม่ที่แก่ชรา ครอบครัว และลูกอายุ 10 ขวบให้ต้องดูแล

ทั้งนี้ พ่อแม่ของนายเอยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเด็กชาย 10 ขวบ อาจไม่ใช่หลานชายของพวกเขา เนื่องจากลูกสะใภ้หนีไปพร้อมกับลูกเขย จึงขอให้เขาตรวจ DNA เพื่อยืนยันความเป็นพ่อ-ลูก แต่เนื่องจากเขาเพิ่งออกจากคุก ไม่มีงานทำ จึงไม่มีเงินไปตรวจ DNA ดังนั้นจึงเข้าร่วมในรายการโทรทัศน์ของดาวเทียมหูเป่ย เป็นโปรแกรมให้คำปรึกษาชีวิตครอบครัว หวังจะให้รายการช่วยตรวจเพื่อให้พ่อแม่คลายความกังวล

นายเอยืนอยู่บนเวทีด้วยรูปร่างผอม และผิดหนังหยาบกร้าน พร้อมเล่าเรื่องราวที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้ชมต่างเห็นอกเห็นใจอย่างลึกซึ้งกับชะตาชีวิตของเขา ในขณะที่ผู้ตรวจ DNA ซึ่งเป็นแพทย์ชื่อดัง ถึงกับกลั้นน้ำตาก่อนจะประกาศผลการตรวจ เธอรู้สึกว่าชายคนนี้น่าสงสารจริงๆ แต่สุดท้ายก็ต้องเผยความจริงว่า "คุณกับลูกชายไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด"

  • แล้วใครคือพ่อของเด็กอายุ 10 ขวบ?

นายเอทบทวนเรื่องราวในชีวิตอีกครั้ง เนื่องจากเขาและภรรยาแต่งงานกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว เมื่อพิจารณาถึงเวลานั้น หมายความว่าภรรยาของเขามีชู้ทันทีหลังจากแต่งงานกัน ในที่สุดก็ค้นพบความจริงว่าลูกวัย 10 ขวบของเขา แท้จริงก็เป็นลูกของพี่เขยเช่นกัน ทั้งสองเริ่มมีความสัมพันธ์กันนับตั้งแต่ภรรยาของเขาเข้ามาอยู่ในครอบครัว

นายเอถึงกับหลั่งน้ำตาออกมากลางรายการ เขาต้องเข้าคุกเพราะปกป้องพี่เขย แต่สุดท้ายพี่เขยกลับเป็นคนทำให้เขาเจ็บปวดขนาดนี้ มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะใจสลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็ยังคงรักลูกชาย แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกทางสายเลือด แต่จะเลี้ยงดูและปฏิบัติต่อลูกอย่างดีเช่นเดิม ความรักที่มีมาหลายปีทำให้เขาไม่สามารถละทิ้งลูกชายได้

ผู้ชมต่างประทับใจกับหัวใจความเป็นพ่อของนายเอ ในขณะเดียวกันก็สงสัยว่าเหตุใดจึงมีคนน่าสงสารเช่นนี้ในโลก ส่วนอดีตภรรยาและพี่เขยของเขา แน่นอนว่าได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ประเด็นวิถีชีวิตและจริยธรรมของเขา โดยหลายคนให้คำแนะนำต่อชาวผู้โชคร้ายคนนี้ว่า

ประการแรก เขาเพิ่งออกจากคุก เขาไม่มีอะไรเลยนอกจากมีพ่อแม่ พี่สาว และลูกชาย ดังนั้นต้องพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างชีวิตใหม่ และใช้ชีวิตใหม่เชิงบวกและมีประโยชน์

ประการที่สอง แม้ว่าลูกชายจะไม่ใช่สายเลือดของเขา แต่เด็กก็ใส่ใจและรับฟังเขาอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับความรู้สึกนี้ ท้ายที่สุดทั้งสองมีความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูกกันมาหลายปีแล้ว สิ่งนี้บางครั้งอาจสำคัญกว่าสายเลือดด้วยซ้ำ

ประการที่สาม เขาต้องไม่ให้อภัยภรรยาที่เลวทรามคนนั้น แต่ควรฟ้องเธอในข้อหาคบชู้ และฟ้องพี่เขยด้วยเช่นกัน ผู้หญิงแบบนั้นไม่คู่ควรกับความรู้สึกดีๆ หรือครอบครัวที่ดี คนพวกนั้นต้องตระหนักถึงความผิดพลาดของตนเอง และชดใช้สำหรับการทรยศผู้อื่น

หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว นายเอก็ตระหนักว่าเขาต้องลืมผู้หญิงคนนั้นไปโดยสิ้นเชิง เพราะเธอไม่คู่ควร และต้อนรับโลกใหม่ด้วยจิตวิญญาณที่สวยงาม ในที่สุดเขาก็เดินออกไปจากรายการท่ามกลางความชื่นชมจากผู้ชม

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ หนุ่มออกทีวีเล่า เมียหนีไปกับพี่เขย ทิ้งลูก 10 ขวบไว้ให้ แต่ผล DNA เผยความลับใจพังอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook