อ.เจษฎ์ ไขปริศนา แสงประหลาดที่โคราช ซูมแล้วเห็นวงแหวน ทำคนฮือฮาเป็น UFO

อ.เจษฎ์ ไขปริศนา แสงประหลาดที่โคราช ซูมแล้วเห็นวงแหวน ทำคนฮือฮาเป็นจานบินต่างดาว ความจริงคืออะไร?

ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความรู้ผ่านทางเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant กรณีแสงประหลาดบนท้องฟ้าที่โคราช ที่บางคนคิดว่าอาจจะเป็นจานบินจากมนุษย์ต่างดาว

โดยระบุว่า ผมดูคลิปที่ส่งมาให้แล้ว ก็ไม่คิดว่ามีอะไรมากนะครับ ตำแหน่งและการเคลื่อนที่เหมือนกับแค่ "ดวงดาว" สว่างมากดวงหนึ่ง และที่ภาพจากกล้องซูมเข้าไปเหมือนเป็นวงแหวนแปลกๆ ก็มาจากแค่ความผิดปรกติของเซนเซอร์กล้อง ที่เกิดขึ้นกันอยู่แล้วครับ

ตามรายงานข่าวบอกว่า มีคลิปบันทึกจากชาวบ้าน ที่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ เป็นลักษณะของแสงวิบวับขึ้นเหนือท้องฟ้า โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านโคกมูลตุ่น หมู่ 3 ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา สอบถามกับทางชาวบ้านและพระในวัด (วัดสิงหวนาราม หรือวัดโคกมูลตุ่น) พบว่าเป็นแสงวิบวับ ขึ้นทางบริเวณกำแพงวัด

โดยชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า ตอนแรกเป็นช่วงกลางคืนที่พ่อออกมานั่งเล่นนอกบ้าน พอสักพักได้เห็นแสงบนท้องฟ้า จึงได้เรียกคนในบ้านพากันออกมาดูว่าเป็นแสงอะไร และหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปวิดิโอไว้ โดยลักษณะจะเป็นแสงวงกลม และวิบวับตลอดเวลา ลอยขึ้นอยู่บริเวณกำแพงวัด

ด้านพระลูกวัด วัดโคกมูลตุ่น เปิดเผยว่าแสงดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่เห็นกันบ่อย แสงจะขึ้นอยู่บริเวณรั้ววัด ในช่วงเวลาประมาณ 20.00 -21.00 น. จะพบได้ในเวลากลางคืน แต่ก็ไม่ทุกคืนเช่นกัน แล้วแต่คนจะมาสังเกตเห็นบนท้องฟ้ากัน

ซึ่งพอเช็กภาพในคลิปวิดีโอนั้น ทั้งภาพของแสงที่เห็น (ซึ่งถ่ายติดประตูรั้วบ้าน) และภาพของชาวบ้านที่ชี้จุดเห็นในเวลากลางวัน ซึ่งประตูรั้วบ้านอยู่ตรงกันข้ามกับกำแพงของวัด ก็สามารถนำมาหาพิกัดในกูเกิ้ลแม็พ ได้ว่าเป็นตำแหน่งใด และผู้ที่เห็นนั้นหันไปทางทิศตะวันออก

ซึ่งถ้าพิจารณาจากทิศ และระดับของมุมเงยที่มองขึ้นไป ก็น่าจะตรงกับในแผนที่ดาวของช่วงเวลา 2 ทุ่ม เมื่อมองไปทางทิศตะวันออก จากพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ด้วยมุมเงยระดับยอดไม้ (ตามที่ชาวบ้านให้สัมภาษณ์) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามี "ดาวพฤหัส" ที่เป็นดาวเคราะห์ที่สว่าง พอจะที่ตาเปล่ามองเห็นได้ในเวลากลางคืน โดยไม่จำเป็นต้องใช้กล้องส่อง และก็สอดคล้องกับที่ชาวบ้านบอกว่า เห็นเป็นแสงสว่างอยู่นิ่งๆ เป็นเวลานาน และถ้ามีก้อนเมฆลอยมาบัง ก็น่าจะเห็นการกระพริบด้วย และมีบางจังหวะที่หายไปบ้าง

ช่วงนี้ "ดาวพฤหัสบดี" จะเห็นได้ช่วงค่ำทางทิศตะวันออก และตกจากขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณตีสี่ ครับ โดยดาวพฤหัสมีค่าโชติมาตร (Magnitude) ถึง -2.78 แสดงว่าสว่างเด่นบนท้องฟ้าทีเดียว

ส่วนการที่ใช้โทรศัพท์มือถือ แล้วซูมภาพเข้าไปถ่าย และเห็นเป็นภาพวงแหวน หรือมีการกระพริบถี่มากขึ้น ก็เป็นแค่ผลจากประสิทธิภาพของเซนเซอร์ การโฟกัส และเลนส์ของกล้องดิจิตอลในโทรศัพท์มือถือนั่นเอง ที่ทำให้เกิดความผิดปรกติในการสร้างภาพขึ้น โดยกล้องไม่สามารถโฟกัสภาพแสงสว่างนั้นให้ชัดเจนได้ จึงกลายเป็นภาพฟุ้ง หลุดโฟกัส หรือที่เรียกกันว่า โบเก้ (bokeh) ครับ ซึ่งถ้าใช้กล้องโทรทรรศน์สำหรับส่องดูดาว ก็จะเห็นภาพที่ชัดเจน เห็นได้กว่า

จริงๆ ช่วงนี้ก็มีโอกาสที่เราจะเห็นพวกดาวเคราะห์ที่สว่างมาก ได้ด้วยตาเปล่า แล้วเข้าใจผิดกันว่าเป็นวัตถุบินลึกลับได้ เช่น "ดาวพุธ" จะเห็นในช่วงค่ำทางทิศตะวันตก โดยตกจากขอบฟ้าเวลาประมาณ 1 ทุ่ม / "ดาวศุกร์" ที่จะเห็นได้ช่วงเช้ามืด ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น ทางทิศตะวันออก / "ดาวเสาร์" จะเห็นได้ช่วงค่ำทางทิศตะวันตก และตกจากขอบฟ้าทางทิศทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณห้าทุ่มครึ่ง