แม่ตกใจ ลูกสาวกลับมาบ้าน สะอึกสะอื้นบอก “อยากเปลี่ยนพ่อ” ที่แท้เพราะครูสอนสะกดชื่อ
ลูกสาวกลับมาจากโรงเรียน กระโดดขึ้นเตียงร้องไห้หนัก วอนแม่ "หนูอยากให้แม่... หาพ่ออีกคนให้หนู" ที่แท้เพราะครูสอนสะกดชื่อ
เด็กเล็กมีจินตนาการมากมายซึ่งดีต่อพัฒนาการของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจทำให้พ่อแม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เพราะความคิดและจินตนาการณ์ของลูกตัวน้อยๆ
ล่าสุด มีเรื่องราวของเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ร้องไห้คร่ำครวญ "อยากเปลี่ยนพ่อ" ทำให้เกิดกระแสไวรัลในโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน หลังจากผู้เป็นแม่บันทึกคลิปเรื่องราวความทุกข์ใจที่ลูกสาวตัวน้อยระบายออกมา และนำมาโพสต์แชร์ทำเอาทุกคนพากันหัวเราะด้วยความเอ็นดูในความคิดที่น่ารักของเธอ
ตามรายงานพบว่า วันเกิดเหตุลูกสาวกลับมาจากโรงเรียนและรีบปีนขึ้นไปบนเตียงนอนทันที แม่กังวลว่ามีบางอย่างผิดปกติกับลูกสาวที่โรงเรียน เธอจึงเข้าไปพูดคุยเพื่อสอบถามอย่างใจเย็น แต่แทนที่จะพูดถึงสาเหตุที่ทำให้หงอยซึม ลูกสาวกลับขอร้องแม่ว่า “หนูอยากให้แม่หาพ่ออีกคนให้หนู”
คำขอที่ไม่คาดคิดทำให้ผู้เป็นแม่สับสนอย่างมาก จึงจำเป็นต้องถามหาเหตุผลจากลูกสาว ในเวลานี้เด็กน้อยระบายออกมาทั้งน้ำตาว่า เพราะนามสกุลของพ่อเขียนยากมาก จึงอยากให้แม่หาพ่ออีกคนที่ใช้นามสกุลง่ายๆ เหมือนกับพ่อของเพื่อนในชั้นเรียนคนอื่นๆ
ปรากฎว่าลูกสาวกำลังจะขึ้นชั้นประถมศึกษา คุณครูจึงเริ่มฝึกให้รู้จักวิธีเขียนชื่อนามสกุลตัวเอง แต่เนื่องจากนามสกุลที่เธอใช้ตามคุณพ่อนั้นเขียนยากเกินไป จึงอยากให้แม่ของเธอเปลี่ยนเป็นพ่อให้ หรือไม่ก็หาพ่อคนใหม่เพิ่มมาอีกสักคน ถึงกับขอซ้ำๆ ว่า “หนูอยากเปลี่ยนพ่อ” , “หนูอยากเปลี่ยนเป็นพ่อคนอื่น”
คำขอของลูกสาวที่ทำให้แม่ตกใจในตอนแรก ยิ่งเห็นลูกสาวร้องไห้ แม่ก็เศร้าเช่นกัน แต่พอได้ฟังเหตุผลแล้วกลับทำให้ยากที่จะกลั้นเสียงหัวเราะ แต่ก็ไม่รู้จะตอบคำถามของลูกสาวอย่างไร จึงได้แต่สัญญาว่าจะคุยกับพ่อเมื่อเขากลับบ้านมา ลูกสาวจึงรู้สึกพอใจมากขึ้นและหยุดร้องไห้ในที่สุด
ทั้งนี้ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ พ่อแม่ควรอธิบายให้ลูกฟังอย่างใจเย็น เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าใจปัญหา ว่าบิดาผู้ให้กำเนิดเพียงคนเดียวในโลก การเปลี่ยนพ่อ หรือเปลี่ยนนามสกุลของพ่อ จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อีกทั้ง ชื่อของแต่ละคนมีความหมายที่สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามอำเภอใจไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแทนที่จะขอให้เปลี่ยนพ่อหรือเปลี่ยนชื่อ ควรหันมาอดทนกับการเรียนรู้ที่จะเขียนมากขึ้นแทน เพราะไม่เพียงแต่นามสกุลของพ่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัญหาอื่นๆ อีกมากมายในการไปโรงเรียนที่ลูกจะต้องเจอ จึงควรอดทนและปรับปรุงตัวเองให้มากขึ้น และเชื่อว่าลูกจะทำได้อย่างประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน