จับข้าราชการ C7 พร้อมครอบครัว ทำเอกสารทิพย์เบิกงบฯ หลวง เสียหาย 28 ล้าน

จับข้าราชการ C7 พร้อมครอบครัว ทำเอกสารทิพย์เบิกงบฯ หลวง เสียหาย 28 ล้าน

จับข้าราชการ C7 พร้อมครอบครัว ทำเอกสารทิพย์เบิกงบฯ หลวง เสียหาย 28 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจ ปปป. บุกจับข้าราชการ C7 พร้อมครอบครัว ร่วมกันทำเอกสารทิพย์ เบิกจ่ายงบประมาณหลวง 3 ปี เสียหายกว่า 28 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ ปปป. ,ป.ป.ช. , ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในสถาบันชีววิทยาทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อจับกุมนางจรรยา (สงวนนามสกุล) นักวิชาการพัสดุ C7 หลังได้รับการร้องเรียน ว่ามีเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมทุจริตในการปลอมแปลงเอกสารเบิกจ่ายงบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ปปป. พบว่า นางจรรยากระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน และมีลูกสาวและลูกเขยร่วมกระทำผิดด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้อนุมัติหมายจับจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤนิมิชอบ ภาค 1 รวม 3 ราย ในข้อหาพนักงานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐฯ ตาม ป.อาญา ม.141 ,157 พร้อมหมายค้นพื้นที่เป้าหมาย รวม 6 จุด ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นนทบุรี, สมุทปราการ, กรุงเทพฯ และ จ.พระนครศรีอยุธยา จากการตรวจค้นพบทรัพย์สินและเอกสารเบิกจ่ายทิพย์จำนวนมาก

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนางจรรยา ตั้งแต่ 1 ม.ค.66 จนถึงปัจจุบัน พบความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท

ด้าน อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้สั่งตรวจสอบย้อนหลัง 3 ปี พบความเสียหายรวม 28 ล้านบาท

นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า เบื้องต้น ในผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าปฏิงานในตำแหน่งดังกล่าวกว่า 30 ปี ได้มีการวางแผนนำลูกสาวเข้ามารับราชการอีกตำแหน่งหนึ่งในองค์กรเดียวกัน เพื่อรองรับการเบิกจ่าย โดยจะมีลูกเขย ตั้งบริษัทเอกชนเพื่อทำหน้าที่จัดหาวัสดุตามใบเบิกจ่าย โดยนางจรรยา จะสร้างเอกสารเท็จขึ้นมา และปลอมลายมือชื่อผู้ตรวจรับพัสดุ จากนั้นจะส่งให้ไปฝ่ายที่ลูกสาวทำงานรับช่วงต่อ

ซึ่งขบวนการนี้ไม่มีบุคคลอื่นในองค์กรเกี่ยวข้อง โดยทำในรูปแบบของครอบครัว ซึ่งพบว่าทำมานานกว่า 3 ปี มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้าน แต่จากการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย พบทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์รวม 11 แปลง, เงินสด 5 ล้านบาท ,รถจักรยานยน นี่ห้อดูคาติ 1 คัน และรถยนต์ 1 คันเจ้าหน้าที่จึงทำการยึดอายัดเพื่อตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่กระทำควาทผิดเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน และตรวจสอบการเบิกย้อนหลัง 5 ปี พร้อมทั้งขยายผลผู้ร่วมขบวนการ หากพบมีผู้กระทำความผิดจะลงโทษโดยไม่ละเว้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่า ความเสียหายต่อรัฐฯ จากการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนจะสูงกว่า 40 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook