ประวัติ "มาดามเดียร์" วทันยา บุนนาค ดอกไม้เหล็กวงการฟุตบอล สู่เส้นทางการเมือง

เปิดประวัติ วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ ผู้ประกาศตัวลงสมัครแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ขาดคุณสมบัติไม่สามารถลงสมัครแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคได้

มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค (สกุลเดิม วงษ์โอภาสี) ปัจจุบันอายุ 39 ปี สำเร็จการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ–ธรรมศาสตร์ และเป็นภรรยาของ ฉาย บุนนาค ประธานธรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nation Group มีลูกชายและลูกสาวด้วยกัน 2 คน ได้แก่ พอใจ บุนนาค และพอเพียง บุนนาค

ดอกไม้เหล็กวงการฟุตบอล

มาดามเดียร์เคยมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัทในธุรกิจสื่อ 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด, บริษัท ร่วมมือร่วมใจ จำกัด และบริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด ในปี พ.ศ. 2559 เธอได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ของบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ต่อมาในปี 2559 มาดามเดียร์ ได้รับการแต่งตั้งโดยการทาบทามของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เป็นผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งในปี 2560 ทีมฟุตบอลของเธอได้ครองแชมป์จากการแข่งกีฬาฟุตบอลในซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย และในปีเดียวกันนี้เอง มาดามเดียร์ ได้ยุติทำทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี โดยให้เหตุผลว่า เพื่อเป็นไปตามนโยบายของสมาคมฟุตบอล ที่ยกเลิกระบบผู้จัดการทีมชาติทุกชุดไปก่อนหน้านี้

เข้าสู่สนามการเมือง

ปลายปี 2561 มาดามเดียร์ ได้เข้าสู่เวทีการเมืองด้วยการสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในปี 2562

ในวันที่ 16 สิงหาคม 2565 เธอได้ลาออกจากการเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จากกรณีเหตุการณ์สภาล่ม เรื่องการโหวตสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบสูตรหาร 100 หรือหาร 500 ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์เฟซบุ๊กทิ้งท้ายไว้ในครั้งนั้นว่า ได้กราบลาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว และลาออกจาก ส.ส.ในวันต่อมา 

ย้ายมาพรรคประชาธิปัตย์

22 กันยายน 2565 พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดตัว มาตามเดียร์ เป็นสมาชิกพรรคคนใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องเร่งฟื้นฟูพรรค

 

มาดามเดียร์  ประกาศตัวลงสมัครแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ขาดคุณสมบัติไม่สามารถลงสมัครแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคได้ เนื่องจากเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึง 5 ปีหรือไม่ได้เป็น ส.ส.ในนามพรรคมาก่อน ตามข้อบังคับพรรคที่ 31(6) และ ข้อ 32(1)

ซึ่งต้องใช้เสียงขององค์ประชุม 3 ใน 4 เพื่อขอยกเว้นข้อบังคับพรรค ถึงจะสามารถลงสมัครแข่งเป็นหัวหน้าพรรคได้ แต่ปรากฏว่า ผลการโหวตคะแนนของ น.ส.วทันยา ไม่ถึง 3 ใน 4 จึงทำให้ไม่สามารถลงสมัครแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคได้ 

ทั้งนี้ พบว่า มีการส่งข้อความทางแอปพลิเคชันไลน์ ในกลุ่มประธานสาขาพรรค และตัวแทนสาขาพรรค ที่เป็นโหวตเตอร์โดยถูกส่งมาจากคนชื่อ ชวลิต ซึ่งถูกระบุว่า เป็นประธานสาขาพรรค จ.ประจวบฯ ระบุว่า 1. ถ้ามีการโหวตงดเว้นข้อบังคับพรรค 70:30 เราจะไม่ยกมือ 2. ถ้ามีการงดเว้นคุณสมบัติให้มาดามเดียเราจะไม่ยกมือ แสดงถึงการสั่งโหวตเตอร์เพื่อสกัดไม่ให้ น.ส.วทันยา ได้คะแนนเสียง