ติวเข้มร้านยาลดปัญหาใช้ยาคุมฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ

ชมรมเภสัชกรจังหวัดภูเก็ตพบแนวโน้มวัยรุ่นใช้ยาคุมกำเนิดไม่ถูกต้อง น่าห่วงสุดอายุ 13 ปี ใช้แบบฉุกเฉินเพิ่มขึ้น รวมถึงปัญหาการทำแท้ง ย้ำทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ไข ขณะที่ร้านขายต้องเข้ามามีบทบาทให้ข้อมูลยาก่อนใช้

นายชูแรง เวชประสิทธิ์ ประธานชมรมเภสัชกรจังหวัดภูเก็ต และนาวาเอกแพทย์หญิงสุนี ไมตรีสถิต สูตินรีแพทย์ด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ร่วมกับบริษัท ดีเคที เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด และมาซาแล็บ จัดงานประชุมวิชาการและการเสวนา "บทบาทร้านขายยากับการคุมกำเนิดในจังหวัดภูเก็ต" วันนี้ (21 มี.ค.) ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง เพื่อเพิ่มบทบาทของร้านขายยาในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้รับรู้ถึงวิธีการรับประทานยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง ลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ รวมถึงปัญหาการทำแท้งเถื่อน และอันตรายจากการใช้ยาคุมกำเนิดที่ไม่ถูกต้อง

นายชูแรง กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีประชากรประมาณ 327,000 คน เป็นหญิง 171,450 คน จากการรวบรวมข้อมูลขณะนี้พบว่ายอดขายยาคุมกำเนิดทั้งจังหวัดประมาณเดือนละ 1 ล้านบาท และแนวโน้มการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุ 13 ปี และปีที่ผ่านมามีวัยรุ่นเข้ามารักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากการทำแท้งเถื่อน ค่อนข้างมาก ปัญหาเหล่านี้ถือเป็นปัญหาสังคมที่จะต้องได้รับการเยียวยาจากทุกฝ่ายอย่าง เร่งด่วน ซึ่งการป้องกันและแก้ปัญหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะโรงเรียนและครอบครัว จะต้องร่วมกันรณรงค์สร้างจิตสำนึกไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร พร้อมทั้งให้คำแนะนำวิธีป้องกันหากมีเพศสัมพันธ์

ด้านนาวาเอกแพทย์หญิงสุนี กล่าวว่า พฤติกรรมล่าแต้มส่งผลให้เด็กวัยรุ่นหันมาใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินแทน การใช้ยาคุมกำเนิดตามปกติ ทั้งที่ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินน้อยกว่า และเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก ดังนั้น เภสัชกรประจำร้านขายยาจึงมีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำที่เหมาะสมและให้ ข้อมูลที่ถูกต้องในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด เพื่อให้ความรู้ก่อนการตัดสินใจใช้ยา โดยเฉพาะยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินใช้เมื่อมีความจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น