ตัวประกันไทย เผยชีวิต 50 วัน จากบ้านร้าง สู่อุโมงค์ใต้ดิน ภายใต้การควบคุมของฮามาส
ตัวประกันไทย เผยชีวิต 50 วัน ใต้การควบคุมของฮามาส มื้ออาหารคือนาฬิกา รอยขีดที่ผนังคือปฏิทิน
ตามรายงานของรอยเตอร์ หนึ่งในตัวประกันชาวไทยที่ได้รับอิสรภาพจากกลุ่มฮามาส และได้กลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน ได้เปิดเผยชีวิตที่พวกเขาต้องเผชิญหลังถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสจับเป็นตัวประกันมาร่วม 50 วันในกาซ่า
นายอนุชา อ่างแก้ว แรงงานไทยวัย 28 ปี เล่าถึงประสบการณ์ในกาซ่า ที่การโจมตีเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในแรงงานไทย 5 คนที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวไป เขาได้แต่ตะโกนว่า “ประเทศไทย ประเทศไทย” แต่กลุ่มติดอาวุธกลับไม่สนใจ และแรงงาน 2 คนจาก 6 คนในกลุ่มที่เขาอยู่ถูกสังหาร รวมถึงเพื่อนของเขาที่ถูกยิงต่อหน้าต่อตา
เมื่อต้องกลายเป็นตัวประกันในสงครามที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา นายอนุชาเล่าถึงช่วงที่กลุ่มฮามาส พากลุ่มคนไทยไปอยู่ในบ้านร้าง และมัดมือพวกเขาไว้ข้างหลัง โดยพวกเขาได้มาสมทบกับชายอิสราเอลวัย 18 ปีที่ทำงานในฟาร์มอาโวคาโดด้วยกัน ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะถูกทำร้าย และพาไปอยู่ในอาคารเล็กๆ ที่นำไปสู่อุโมงค์ใต้ดิน
นายอนุชาเล่าว่าเขาต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในห้องใต้ดินเล็กๆ จำนวน 2 ห้องที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ และต้องเข้าไปภายใต้อุโมงค์มืดๆ แคบๆ โดนกลุ่มฮามาสทำร้ายร่วม 2 วัน รวมทั้งยังเล่าว่ากลุ่มฮามาสแยกตัวประกันอิสราเอลออกไปขังเดี่ยว เพื่อทำร้ายร่างกาย
สำหรับความเป็นอยู่ของนายอนุชาในช่วงแรก เขาต้องนอนอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยทราย ได้รับอาหารเป็นขนมปัง 2 ครั้งต่อวัน แต่ตัวประกันทั้ง 6 คนในห้องแคบๆ นั้นมีน้ำดื่มประทังชีพแค่เพียง 2 ขวดเท่านั้น ส่วนห้องน้ำที่มีคือหลุมที่ขุดไว้ใกล้ๆ กับห้องขัง และต้องมีการ์ดติดอาวุธคุ้มกันตลอดเวลาที่ทำธุระส่วนตัว
ต่อมา นายอนุชาและตัวประกันคนไทยกลุ่มนี้ ถูกย้ายไปอีกห้องหนึ่งที่กว้างขึ้น มีแผ่นพลาสติกปูนอนได้ มีแสงไฟจากหลอดไฟ 3 ดวงเพิ่มความสว่างไสว และซุ้มเป็นห้องน้ำส่วนตัว พวกเขาไม่โดนทำร้ายร่างกายอีกแล้ว และได้รับอาหารที่ดีขึ้น รวมถึงถั่ว เนย และข้าว
สำหรับนายอนุชาแล้ว มื้ออาหารคือนาฬิกา ส่วนรอยขีดที่ผนังคือปฏิทิน ที่เขานับวันที่ต้องเป็นตัวประกันในการควบคุมของฮามาส สิ่งที่เยียวยาจิตใจของตัวประกันไทยในการควบคุมตัวโดยกลุ่มฮามาสก็คือ เกมหมากรุกที่ทำขึ้นเองจากแผ่นพลาสติกและกระดาษกล่องยาสีฟัน การนึกย้อนถึงความหลังกับครอบครัว และความคิดถึงอาหารไทย โดยเฉพาะซอยจุ๊ ที่เขาพูดถึงและฝันถึงอยู่ตลอดเวลา
เมื่อถึงวันที่ 35 ของการถูกจับเป็นตัวประกัน ชายชุดดำเข้ามาตรวจสอบพวกเขาเพียงชั่วครู่ ซึ่งจากการสังเกตพฤติกรรมของการ์ดที่นั่น เขาเชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส ก่อนที่วันหนึ่งการ์ดจะส่งมื้ออาหารให้พวกเขา และบอกว่าให้คนไทยกลับบ้านได้
คนไทย 4 คนถูกพาตัวผ่านอุโมงค์เป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง และขึ้นมาบนพื้นดินที่ฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาส ซึ่งมีตัวประกันหญิงอิสราเอลจำนวนหนึ่งรออยู่ที่นั่นด้วย และ 11 ชั่วโมงต่อมาพวกเขาก็อยู่ในความดูแลของหน่วยกาชาด ที่พาพวกเขาออกจากกาซ่า เมื่อ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นายอนุชายังกล่าวว่า ตนไม่คิดฝันว่าจะได้รับการปล่อยตัวออกมา และว่ามันเหมือนกับการเกิดใหม่ แม้ว่าสิ่งที่ยากจะทำใจที่สุดในความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาสนั้น คือการสูญเสียเพื่อนไปต่อหน้าต่อตา
ทั้งนี้ ตัวประกันไทยเพียงไม่กี่คนที่ออกมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาที่นั่น และหลายคนมีการพูดถึงการถูกทำร้ายร่างกายและขู่ฆ่าระหว่างที่เป็นตัวประกันด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาส ยังไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการเปิดเผยเรื่องราวของนายอนุชา ในช่วงเวลาที่รอยเตอร์รายงานข่าวนี้