ชาวเน็ตเป็นงง คลิป "แอร์โฮสเตส" บริการแบบนี้กับเด็ก 5 ขวบ ถามใช่หน้าที่จริงเหรอ?

ชาวเน็ตเป็นงง คลิป "แอร์โฮสเตส" บริการแบบนี้กับเด็ก 5 ขวบ ถามใช่หน้าที่จริงเหรอ?

ชาวเน็ตเป็นงง คลิป "แอร์โฮสเตส" บริการแบบนี้กับเด็ก 5 ขวบ ถามใช่หน้าที่จริงเหรอ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เว็บไซต์ asiaone รายงานเรื่องราวที่ทำเอาชาวเน็ตได้คอมเมนต์สนั่นอีกครั้ง เมื่อปรากฏคลิปหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า แอร์โฮสเตสกำลังให้บริการเด็กชายวัย 5 ขวบที่โดยสารในชั้นธุรกิจ ด้วยการนั่งป้อนอาหารแบบสุดพิเศษ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนชั้นธุรกิจของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ (SIA) ที่มุ่งหน้าจากลอส แอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยผู้โดยสารที่ชื่อว่า ไมเคิล รัทเทอร์ฟอร์ด โพสต์คลิปผ่านอินสตาแกรม michaelrutherfordonline พร้อมแนบแคปชันว่า "ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับพวกคุณ คุณจะทำอย่างไร? เที่ยวบินนี้ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา และสิ่งนี้ก็ยิ่งทำให้เที่ยวบินสมบูรณ์แบบมากขึ้น"

จากคลิปสั้นๆดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า แอร์โฮสเตสกำลังนั่งยองๆ อยู่ข้างเด็กชายคนหนึ่ง พร้อมกับป้อนอาหาร ในขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินอยู่กับหูฟังและจอแท็บแล็ต จนได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างล้นหลาม มียอดจนถึงตอนนี้แล้วกว่า 21.5 ล้านครั้ง และอีกกว่า 10,000 คอมเมนต์เลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี คลิปนี้กลายเป็นไวรัลจนเกิดการถกเถียงบนโลกออนไลน์ถึงความเหมาะสมว่า คนเป็นพ่อควรปล่อยให้แอร์โฮสเตสป้อนอาหารลูกชายจริงเหรอ? แนบความคิดเห็นทำนองตำหนิมากมาย เช่น

"สุดยอดของบริการ แต่มันไม่จำเป็นเลย"

"พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก พวกเขาต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร"

แต่อีกฝั่งก็มีบางคอมเมนต์ชื่นชมการกระทำของแอร์โฮสเตสคนนี้ ยกตัวอย่างเช่น "ในฐานะอดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ผมก็จะทำแบบนี้ด้วยความรักที่มีต่อทารกและเด็กๆบนเครื่องบิน"

หลังคลิปกลายเป็นกระแสดราม่าดุเดือด รัทเทอร์ฟอร์ด ได้คอมเมนต์ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตอนนั้นเขานั่งอยู่กับลูกชายจริง แต่แอร์โฮสเตสคนในคลิปทำตามความต้องการของเธอเอง เขาไม่ได้เอ่ยปากขอหรือบังคับให้เธอทำแต่อย่างใด แถมยังค่อนข้างประหลาดใจที่เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นเฉยเลย

"มันเป็นเรื่องที่ชวนให้รู้สึกละอายจริงๆ ผู้คนบนอินเทอร์เน็ตมองว่าเรื่องน่าชื่นชมกลับเป็นการกระทำที่ไม่สมควร พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้นเอาใจใส่มากๆ เรารู้สึกเหมือนเราเป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียวบนเครื่อง"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook