สงสัยสะใภ้ ปู่พาหลานไปตรวจ DNA ผลรอบ 3 ทำช็อก ความลับที่ไม่รู้จะถามใครเปิดเผย

ปู่พาหลานชายไปตรวจ DNA เพราะสงสัยไม่เหมือนตัวเอง ผลรอบ 3 ของปู่-ลูก-หลาน ทำช็อกทั้งครอบครัว คนที่รู้ความจริงก็ตายไปแล้ว

เว็บไซต์ Docnhanh รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ หญิงสาวชาวจีนรายหนึ่งได้เล่าเรื่องราวชีวิตครอบครัวของตัวเอง ที่พลิกไปพลิกมาหลายตลบ กลายเป็นที่สนใจบนโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีนได้รับความสนใจอย่างมาก

นางหลิว เล่าว่า เธอและนายหลี่ สามีแต่งงานกันมา 7 ปีแล้ว และมีลูกชายอายุ 6 ขวบ ชีวิตของทั้งคู่มีความสุขและสนุกสนานมาก โดยมีปัญหาเดียวที่ทำให้เธอกังวลคือ นายลี พ่อสามีไม่ค่อยชอบเธอ

เหตุผลก็คือนางหลิวเคยทำงานแผนกต้อนรับในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอต้องแต่งหน้าค่อนข้างมากทุกวันเมื่อไปทำงาน สิ่งนี้ทำให้พ่อสามีไม่พอใจอย่างมาก เชามักจะวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของลูกสะใภ้อยู่เสมอ

ด้วยเหตุนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อตาและลูกสะใภ้จึงตึงเครียดมาก นายหลี่ ผู้เป็นสามี จึงตัดสินใจแยกครอบครัวออกไปอยู่กับภรรยาและลูก เพื่อรักษาบรรยากาศในครอบครัว

เดิมทีทุกอย่างจะสงบสุขเช่นนั้น แต่แม่สามีของนางหลิวจะเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ขณะที่สุขภาพของนายลีแย่ลงเรื่อย ๆ หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต เนื่องจากนายหลี่เป็นห่วงพ่อของเขา จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่กับพ่อ

โดยไม่คาดคิดหลังจากกลับไปอาศัยอยู่กับพ่อสามี เรื่องราวต่าง ๆ ก็ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุเป็นเพราะนายลีพาหลานชายออกไปเล่น และบังเอิญได้ยินเพื่อนบ้านบอกว่าทั้งคู่ไม่มีอะไรเหมือนกัน

หลังจากได้ยินเช่นนี้ นายลีก็เริ่มรู้สึกสงสัย คิดว่าลูกสะใภ้ทำอะไรผิดกับลูกชายของเขา เขารีบกลับบ้านทันทีและขอให้หลานชายตรวจดีเอ็นเอ

เมื่อเธอรู้ว่าพ่อสามีสงสัยเธอ นางหลิวก็โกรธมาก เธอประกาศว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดกับสามีของเธอ และถ้าพ่อสามีต้องการตรวจดีเอ็นเอ ก็ให้เขาตรวจดีเอ็นเอกับหลานเอาเอง ขณะที่นายหลี่ยังเชื่อใจภรรยาของเขาเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้พ่อของเขาล้มเลิกความคิดนี้

อย่างไรก็ตาม เพราะต้องการตรวจสอบสิ่งที่เขาพูด นายลีจึงตัดสินใจตรวจดีเอ็นเอระหว่างเขากับหลานชาย วันที่ไปรับผลตรวจ ทั้งครอบครัวถึงกับตะลึง เมื่อผลปรากฏว่านายลีและหลานชายไม่มีสายเลือดเดียวกัน

สิ่งนี้ทำให้นางหลิวสับสนอย่างมาก ส่วนนายลีก็ยินดีเพราะเขาพูดถูก "ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าคนประเภทนี้ไม่ดี ดูสิ เขาน่าเกลียดหรือเปล่า?"

นายหลี่ถือผลการตรวจดีเอ็นเอไว้ในมือ และอดไม่ได้ที่จะตกใจ อย่างไรก็ตาม หลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้ เขาจึงตัดสินใจพาลูกชายไปตรวจ DNA อีกครั้ง เนื่องจากสงสัยว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น

เมื่อได้รับผลการตรวจ นายหลี่ก็โล่งใจเมื่อผลตรวจพบว่าลูกชายนั้นเป็นลูกแท้ ๆ ของเขา ขณะที่ทั้งคู่เชื่อว่ามีข้อผิดพลาดในกระบวนการตรวจดีเอ็นเอ แต่นายลียังยืนยันว่าผลตรวจดีเอ็นเอของเขาถูกต้อง

ในที่สุด นายลียืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอเป็นครั้งที่ 3 คราวนี้นายลี ลูกชาย และหลานชายของเขาต่างก็ทำการทดสอบด้วยกัน โดยไม่คาดคิดการตัดสินใจของนายลีเปิดเผยความลับที่น่าตกตะลึง

หลังจากรอมาระยะหนึ่ง ในวันที่ได้ผลตรวจดีเอ็นเอ นายลีก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าเขาและลูกชายไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด นี่คือสาเหตุที่หลานชายของเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเขา

ด้วยความประหลาดใจมากจนนายลีถึงกับหลั่งน้ำตา ไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง ในที่สุดความลับของครอบครัวก็ถูกเปิดเผยหลังจากผ่านไปหลายปี

เมื่อเห็นพ่อของเขาสติแตก นายหลี่จึงรีบปลอบผู้เป็นพ่อว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดหรือไม่ก็ตาม ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก

แม้นายลีจะรู้สึกสบายใจเมื่อได้ยินลูกชายพูดแบบนั้น แต่บางทีเขาอาจจะยังรู้สึกตะขิดตะขวงอยู่ในใจ เพราะเขาไม่รู้ความจริงของเรื่องนี้ เพราะผู้รู้ความจริงมีเพียงคนเดียว คือแม่ของนายลีที่เสียชีวิตแล้ว