สมรักษ์ เปิดใจหลังรับทราบข้อหา ขอโทษทุกฝ่าย แต่ยังยืนยันไม่รู้จริงๆ ว่าอายุ 17
สมรักษ์ เปิดใจหลังถูกแจ้ง 4 ข้อหา กราบขอโทษพี่น้องชาวไทย ขอโทษครอบครัว 2 ฝ่าย ไม่ทราบจริงๆ ว่าสาวอายุ 17
(13 ธ.ค. 66) หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้แจ้งข้อกล่าวหา กับนายสมรักษ์ คำสิงห์ เป็นผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อกล่าวหา 1.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากผู้ปกครอง, 2.ร่วมกันพาบุคคลอายุต่ำกว่า 15 แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร 3.กระทำอนาจารกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย 4.พยายามข่มขืนผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย
โดยนายสมรักษ์ คำสิงห์ ได้ติดต่อเข้าพบกับ พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เพื่อรับทราบข้อกล่าวพร้อมให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 เก็บตัวอย่าง DNA เพื่อใช้ประกอบเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
หลังจากการเข้าพบพนักงานสอบสวนและเก็บตัวอย่าง DNA สมรักษ์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมกับไหว้ขอโทษ
"ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษพี่น้องชาวไทย ชาวจังหวัดขอนแก่น ที่ทำให้เรื่องเดือดร้อนขึ้นมา ปัญหาที่เกิดก็คือว่าตนเองไม่ทราบจริงๆว่า ผู้เสียหายนั้นมีอายุ 17 ปี ถ้าหากตนเองทราบ คงไม่มีเรื่องเกิดขึ้นแต่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วต้องตั้งสติหาทางแก้ไข และต้องขอโทษครอบครัวตนเอง รวมทั้งครอบครัวของน้องเค้าด้วย ตนเองก็เข้าใจความรู้สึกของทุกคน ก็ไม่อยากให้เรื่องมันเกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้วตนเองก็พร้อมที่จะแก้ไข และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม" จากนั้นได้เดินขึ้นรถไป
พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ในวันนี้ผู้ต้องหาที่ 1 นายสมรักษ์ คำสิงห์ ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทางพนักงานสอบลวนได้ให้เวลา 15 วัน เพื่อที่จะไปทำคำให้การ มาเพื่อแก้ข้อกล่าวหาที่ได้ทำผิดพลาดไป ที่ผู้ต้องหารับจะไปแก้ไขให้ดีขึ้นพร้อมกับมีการขอโทษคนไทย ครอบครัวของผู้ต้องหาเอง รวมทั้งครอบครัวของผู้เสียหายด้วย ซึ่งตลอดเวลาที่ได้มีการสอบปากคำ ผู้ต้องหา ไม่มีอาการเครียดแต่อย่างใด แต่ก็มีความรู้สึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความผิดพลาด
นอกจากนี้ผู้ต้องหาได้ประสงค์ที่จะเข้ามอบตัว พนักงานสอบสวนจึงเห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี จึงไม่ได้มีการควบคุมตัวและเตรียมจะไปปรึกษาทนายความ เพราะที่มาเข้ามอบตัวในวันนี้ ไม่มีทนายความมาร่วมด้วย ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์พาผู้ต้องหารายที่ 1 และผู้เสียหายไปโรงแรมจะมีการออกหมายเรียกต่อไป