สาวโดนเพื่อนบ้านบีบคอเกือบตาย ขึ้นโรงพักวันเกิด อึ้ง ถูกตำรวจไล่เพราะร้องไห้

สาวโดนเพื่อนบ้านบีบคอเกือบตาย ขึ้นโรงพักวันเกิด อึ้ง ถูกตำรวจไล่เพราะร้องไห้

สาวโดนเพื่อนบ้านบีบคอเกือบตาย ขึ้นโรงพักวันเกิด อึ้ง ถูกตำรวจไล่เพราะร้องไห้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวขึ้นโรงพักวันเกิด โดนเพื่อนบ้านบีบคอเกือบตาย ช้ำซ้ำสอง ตำรวจไล่ให้ไปร้องไห้ก่อน เผยหมดศรัทธาในผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

วันที่ 14 ธันวาคม 2566 เวลา 16.00 น. น.ส. อารีลักษณ์  อายุ 35 ปี ร้องสื่อ  จากกรณีโดนเพื่อนบ้านบุกทำร้ายร่างกายถึงภายในบ้าน เหตุสุดจะทน เพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดัง ไปตักเตือนกลับโดนทำร้ายร่างกาย โดนบีบคอเกือบสิ้นชื่อ

วันนี้ได้เข้าไปสอบถามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความกลับโดนไล่ออกมา  สุดช้ำใจ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันที่เกิดเรื่องนั้น เป็นตอนตี 1 ของวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเกิดตนพอดี อายุครบ 35 ปี ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอของขวัญในวันเกิดเป็นเรื่องราวโชคร้ายซ้ำสองแบบนี้ โดนทำร้ายร่างกาย หวังพึ่งคุณตำรวจแต่กลับโดนไล่ และใช้คำพูดไม่ดีใส่

ซึ่งคืนนั้นตนไปแจ้งความ พอจะเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟัง น้ำตาก็ไหลออกมา เพราะตนนั้นพึ่งผ่านความตายออกมาจากสองผัวเมีย และยิ่งสายตาของผัวเขาตนจำฝังใจและยังกลัวอยู่ ซึ่งขณะที่ให้การกับตำรวจตนก็ร้องไห้ไปเล่าไป แต่ก็โดนตำรวจเจ้าของคดีไล่ให้ไปร้องไห้ก่อน แล้วค่อยมาแจ้งความ ตนก็บอกว่า มาแล้วขอแจ้งความเลย หรือจะให้ไปตรวจร่างกายก่อน จากนั้น ตำรวจก็ให้ตนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังอีกครั้ง และขณะที่ตนกำลังจะไปตรวจร่างกาย เจอน้องสาวที่เดินทางมาหาที่ สภ.ห้วยโป่ง ตนก็กลั้นน้ำตาไม่ไหว ก็กอดน้องสาวร้องไห้ ตำรวจเจ้าของคดีก็ตะโกนออกมาอีกว่า “เอ้าไปตรวจร่างกายได้แล้ว”

และวันนี้ ตนก็เข้าไปสอบถามความคืบหน้าของคดี เพราะ ใบแจ้งความ ก็ไม่ลงเบอร์โทรของร้อยเวรเจ้าของคดีมาให้ เมื่อไปถึง สภ. ตนก็เข้าไปนั่งรอ เมื่อเจ้าหน้าที่ว่างตนก็เข้าไปสอบถาม ว่าคดีเป็นอย่างไรบ้าง ทางคุณตำรวจก็ บอกมาว่า “ รับแจ้งความไว้แล้ว มีเบอร์ทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ต้องรอทำหน้าที่ตำรวจอยู่ งานก็เยอะ ชนกันอีก” พร้อมกับทำมือ ไล่ตนออกไปข้างนอก ตนถึงกับ อ้าปากค้าง และยกมือไหว้และพูดไปว่า “ขอโทษนะคะที่เข้ามาถาม” และเดินออกมา

ในใจตอนนั้นสุดช้ำและหมดศรัทธากับการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก ตนหนีตายมาหวังว่าตำรวจจะช่วยตน ให้ความปลอดภัยเป็นธรรมได้ แต่มาเจอแบบนี้ถึง 2 ครั้ง ถึงกับสงสัยเลยว่า ตนใช่คนไทยหรือเปล่า มีสิทธิมีเสียงเหมือนคนทั่วไปหรือไม่ ตนอยากให้ตำรวจเปลี่ยนทัศนคติ คนที่เขาไปโรงพัก เขาก็ทุกข์ใจมากพอหวังพึ่งตำรวจ แต่ถ้ามาเจอแบบนี้ ก็ช้ำใจหนักเข้าไปอีก

อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเป็นที่พึ่งของประชนด้วย อย่าให้ประชาชนหมดศรัทธาไม่รู้จะไปพึ่งใครได้อีกเลย  หากตนเคลียร์เรื่องราวจบคดีนี้ได้หมดตนก็จะไปทำบุญกรวดน้ำ 9 วัดให้ด้วยเพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับของขวัญในวันเกิดที่ไม่อยากได้อีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook