เกือบขิต! หนุ่มซื้อซูชิแถวบ้าน เจอคล้ายหมึกบลูริง ร้านแจงไม่ได้แล่เอง สับปนกันมา

เกือบขิต! หนุ่มซื้อซูชิแถวบ้าน เจอคล้ายหมึกบลูริง ร้านแจงไม่ได้แล่เอง สับปนกันมา

เกือบขิต! หนุ่มซื้อซูชิแถวบ้าน เจอคล้ายหมึกบลูริง ร้านแจงไม่ได้แล่เอง สับปนกันมา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มซื้อซูชิแถวบ้าน เจอคล้าย "หมึกบลูริง" ร้านขอโทษแล้ว แจงไม่ได้แล่เอง แต่ซื้อแบบที่เขาสับปนกันมา

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพเตือนภัยลงในกลุ่ม "พวกเราคือผู้บริโภค" หลังไปซื้อซูชิจากร้านแห่งหนึ่งแถวบ้าน และไปเจอซูชิหน้าปลาหมึกที่ลักษณะคล้ายกับ "หมึกบลูริง" ที่มีพิษร้ายแรง

โดยระบุข้อความว่า "อันนี้จากร้านซูชิแถวบ้านครับ ฝากเตือนกันด้วยนะครับ ค่อนข้างจะชัดว่าเป็นวงที่หนวด ไม่ใช่ที่โคนหนวดครับผม ยังไงถ้าไม่มั่นใจแนะนำว่าไม่ให้กิน ดีที่สุดครับ"

พร้อมกับโพสต์ภาพของซูชิหน้าปลาหมึกคำดังกล่าว โดยที่หนวกหมึกนั้นมีวงแหวนอยู่ทุกชิ้น ซึ่งลักษณะคล้ายกับหนวดของหมึกบลูริง และได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบระหว่างหมึกบลูริง กับหมึกอิคคิว ซึ่งหมึกอิคคิวนั้นมีวงแหวนที่แก้มแค่ 1 วง กินได้ไม่เป็นอันตราย ส่วนหมึกบลูริงนั้นมีวงแหวนที่หนวดหลายจุด มีพิษร้ายแรง

ผู้โพสต์เข้ามาอัปเดตเพิ่มเติมว่า "แจ้งทางร้านเรียบร้อยครับ ร้านขอโทษแล้ว คืนเงินมาแล้ว ร้านแจ้งว่าไม่ได้แล่เอง แต่ซื้อที่เขาสับปนกันมาครับ"

สำหรับ หมึกบลูริง จะมีลักษณะลำตัวขนาดเล็ก มีลายวงแหวนสีฟ้าสะท้อนแสงเล็กๆ กระจายอยู่ตามลำตัวและหนวด ตัวเต็มวัยมีขนาด 4-5 เซนติเมตร และหนวดยาวประมาณ 15 เซนติเมตร อาศัยอยู่ตามซอกหินและชอบหลบซ่อนตัวอยู่ในทรายใต้ท้องทะเล เคลื่อนที่โดยการใช้หนวดเดินจะไม่ใช้การพ่นน้ำเพื่อพุ่งตัวในการเคลื่อนที่เหมือนหมึกกล้วย

พิษของหมึกบลูริง หรือ หมึกสายสีน้ำเงิน มีชื่อว่า Maculotoxin (มาคูโลทอกซิน) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพิษของปลาปักเป้าที่มีชื่อว่า Tetrodotoxin (เทโทรโดทอกซิน) สามารถพบพิษนี้ได้ในต่อมน้ำลาย (Salivary gland) ปาก หนวด ลำไส้ และต่อมหมึก พิษชนิดนี้จะทำลายระบบประสาททำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และทำให้เหยื่อตายหรือเป็นอัมพาต ผู้ที่ถูกหมึกบลูริงกัดเปรียบเหมือนการฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือดโดยตรง

โดยพิษจะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว และเร็วกว่าพิษจากปลาปักเป้า อาการเริ่มแรกของผู้ที่ถูกกัดหรือกินหมึกบลูริงเข้าไปจะมีอาการคลื่นไส้ ตาพร่าเลือน มองไม่เห็น ประสาทสัมผัสไม่ทำงาน พูดหรือกลืนน้ำลายไม่ได้ จากนั้นจะเป็นอัมพาตและหยุดหายใจเนื่องจากสมองขาดออกซิเจน หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีจะทำให้ตายในที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook