เกิดอะไรขึ้นบ้าง! "ว่าที่ด็อกเตอร์" ผวาพลัดตกตึก หลังชายเมาบุกทุบห้อง เหตุจอดรถทับที่

เกิดอะไรขึ้นบ้าง! "ว่าที่ด็อกเตอร์" ผวาพลัดตกตึก หลังชายเมาบุกทุบห้อง เหตุจอดรถทับที่

เกิดอะไรขึ้นบ้าง! "ว่าที่ด็อกเตอร์" ผวาพลัดตกตึก หลังชายเมาบุกทุบห้อง เหตุจอดรถทับที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลายเป็นประเด็นใหญ่ของสังคมทันที หลังนักศึกษาปริญญาเอกพลัดตกตึกชั้น 6 เสียชีวิต โดยผู้เป็นพ่อได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเพจ “สายไหมต้องรอด” เพื่อขอความเป็นธรรม ทำให้ประชาชนให้ความสนใจและติดตามความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

จนถึงตอนนี้เรารู้อะไรแล้วบ้าง Sanook สรุปข่าวร้อนที่สังคมจับตามองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับข่าวว่าที่ด็อกเตอร์สาว” ผวาพลัดตกตึก

“ว่าที่ด็อกเตอร์” พลัดตกตึก

คืนวันที่ 13 ธ.ค. 2566 เกิดเหตุการณ์นิสิตระดับปริญญาเอกคนหนึ่ง พลัดตกจากระเบียงชั้น 6 ของแมนชั่น ลงมาเสียชีวิตด้านล่าง ทราบภายหลังว่าเกิดจากผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็น “สามีเจ้าของแมนชั่น” เป็นผู้ขึ้นไปเคาะประตูห้องของนิสิตคนดังกล่าว ด้วยเสียงที่ดังและพยายามจะพังประตูเข้ามา ทำให้นิสิตคนนี้ตกใจกลัว คิดว่าผู้ก่อเหตุจะบุกเข้ามาในห้อง เธอจึงปีนหนีออกทางระเบียงห้องเพื่อข้ามไปห้องข้างๆ แต่พลัดตกจากชั้น 6 ลงมาเสียชีวิต

กระทั่งเมื่อวานนี้ (17 ธ.ค. 66) พ่อของนิสิตคนดังกล่าว ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเพจ “สายไหมต้องรอด” เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากมีการตั้งข้อหากับผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ยังไม่มีการจับกุม จึงกังวลว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม หลังข่่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ที่คนในสังคมให้ความสนใจและจับตามองอย่างใกล้ชิด 

เข้าใจผิดคิดว่าจอดรถทับที่

จากคำบอกเล่าของพ่อ ระบุว่า คืนเกิดเหตุมีชายรายหนึ่งซึ่งเป็น “สามีของผู้จัดการแมนชั่น” ได้ขึ้นไปเคาะประตูห้องเสียงดังมาก และใช้ถ่อยคำส่งเสียงโวยวาย เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่านิสิตที่เสียชีวิตได้จอดรถจักรยานยนต์ทับที่จอดของตัวเอง หลัังโทรไปสอบถามแม่บ้านที่ดูแลแมนชั่นและทราบว่ารถจักรยานยนต์ที่มาจอดอาจจะเป็นของผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุไม่ได้มีการตรวจสารเสพติดผู้ก่อเหตุ แต่มีอาการมึนเมาคล้ายคนดื่มสุรา และที่สำคัญคือรถจักรยานยนต์ที่จอดทับที่ของผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่รถจักรยานยนต์ของนิสิตที่เสียชีวิต แต่เป็นของคนอื่น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเข้าใจผิด

Dorm

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ 3 ข้อหา ได้แก่

  • ความผิดฐานบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน
  • ความผิดฐานผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน
  • ความผิดฐานผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ

แต่กลับไม่มีการพิจารณาแจ้งข้อหาฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เนื่องจากนิสิตคนดังกล่าวพลัดตกตึกโดยมีมูลเหตุจากจากการถูกเคาะห้องรัวๆ ทำให้มีเสียงดังจนผู้เสียชีวิตตกใจ

เปิดแชตนิสิตสาวบอกเพื่อน “จะปีนแล้วนะ”

หลังกลายเป็นข่าวดัง ก็มีการเปิดเผย “แชต” แสดงบทสนทนาระหว่างนิสิตที่เสียชีวิตกับเพื่อนของเธอระหว่างเกิดเหตุ โดยนิสิตสาวได้โทรหาเพื่อนที่อยู่แมนชั่นเดียวกัน และส่งข้อความบอกว่ามีคนมาเคาะประตูห้องเสียงดังมาก ให้เพื่อนคนดังกล่าวที่พักอยู่ชั้น 3 มาช่วยเหลือ ซึ่งในบทสนทนาแสดงให้เห็นคำพูดของนิสิตคนดังกล่าว ว่า “จะปืนห้องละนะ” 

ขณะที่เพื่อนไม่กล้าขึ้นไปช่วย เพราะกลัวผู้ก่อเหตุจะมีอาวุธ จึงรีบลงไปที่ชั้น 1 เพื่อเรียก รปภ. และโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ระหว่างนั้น นิสิตคนดังกล่าวก็ปีนระเบียงหนีแล้ว แต่พลัดตกจากชั้น 6 ลงมากระแทกผ่านหลังคาโรงจอดรถและเสียชีวิต 

ผู้ก่อเหตุเป็นแค่ “ผู้เช่า”

ทีมสายไหมต้องรอดและพ่อของนิสิตที่เสียชีวิต ได้เดินทางไปที่แมนชั่นดังกล่าว และเข้าะบกับผู้ดูแลแมนชั่น กระทั่งได้พบกับผู้ดูแลประจำแมนชั่น ที่ได้บอกว่าผู้ก่อเหตุเป็น “ผู้เช่า” ไม่ใช่สามีของผู้ดูแลแมนชั่นตามที่เป็นข่าว หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุก็รู้สึกสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถูกสั่งให้ย้ายออกทันที เพราะถือเป็นบุคคลอันตราย

ผู้ดูแลประจำแมนชั่นคนดังกล่าวยังได้ยืนยันว่าได้ส่งหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว พร้อมระบุว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะช่วยเหลือเยียวยาด้านค่าทำศพให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต

Dorm

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุแล้ว ทราบเรื่องว่าคืนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุกลับมาจากที่ทำงานและจะจอดรถจักรยานยนต์ในที่ประจำของตัวเอง แต่มีผู้อื่นมาจอดรถทับที่ จึงสอบถามผู้ดูแลแมนชั่น แล้วขึ้นไปอาละวาด 

พ่อเศร้า บอกลูกสาวขี้ตกใจ

ด้านพ่อของนิสิตที่เสียชีวิตได้กล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนกลัวเสียงดังมาตั้งแต่เด็ก และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง ลูกสาวเป็นคนเรียนเก่งและเป็นนักเรียนทุน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตจากการกระทำของคนมึนเมาขาดสติ เพราะเข้าใจผิดว่าลูกสาวไปจอดรถจักรยานยนต์ทับที่ 

ยิ่งไปกว่านั้น พ่อยังมองว่าผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายคนมึนเมา แต่กลับไม่มีการตรวจสารเสพติดเพราะมองว่าเป็นเรื่องการจอดทับที่ แล้วทำไมจึงคลุ้มคลั่งขนาดนั้น และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวก็ไม่ใช่ของลูกสาวตน จึงอยากให้ผู้กอเหตุมีจิตสำนึก และอยากให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีให้ครอบคลุมทั้งหมด

Dorm

แม่คาใจและไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุ

ขณะที่แม่ของนิสิตที่เสียชีวิต ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ระบุว่าผู้ดูแลประจำแมนชั่นและผู้ก่อเหตุได้เข้ามาไหว้ขอโทษแม่ เพราะเข้าใจผิดเรื่องรถจักรยานยนต์ที่มาจอดทับที่ พร้อมกับบอกเลขห้องผิด จึงเป็นเหตุให้นิสิตสาวพลัดตกตึกเสียชีวิต โดยผู้เป็นแม่ระบุว่าไม่ให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น และติดใจตรงที่หากเป็นเรื่องเข้าใจผิดทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ 

ทั้งนี้ เจ้าของแมนชั่นยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยเพื่อรับผิดชอบแต่อย่างใด และแม่ก็จะไม่รับคำขอโทษและไม่ให้อภัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook