อ.เจษฎ์ เปิดวิธีคำนวน "กินพาราฯ ตามน้ำหนักตัว" หลังหมอเตือนกินทีละ 2 เม็ด ทำตับพัง

อ.เจษฎ์ เปิดวิธีคำนวน "กินพาราฯ ตามน้ำหนักตัว" หลังหมอเตือนกินทีละ 2 เม็ด ทำตับพัง

อ.เจษฎ์ เปิดวิธีคำนวน "กินพาราฯ ตามน้ำหนักตัว" หลังหมอเตือนกินทีละ 2 เม็ด ทำตับพัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อ.เจษฎ์ ช่วยคำนวนให้หายปวดหัว "กินพาราฯ ตามน้ำหนักตัว" อย่างไรให้ปลอดภัย หลังมีหมอทำคลิปเตือนกินทีละ 2 เม็ด เสี่ยงตับพังได้

กลายเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นตระหนกให้ชาวเน็ตพอสมควร จากกรณีที่มีคุณหมอท่านหนึ่งได้ออกมาทำคลิปเตือน "กินพารา ทีละ 2 เม็ด ตับพังไม่รู้ตัว" ทำเอาหลายคนฟังแล้วทั้งกังวลและสงสัย เพราะปกติบนฉลากเห็นเขียนให้กินได้ครั้งละ 1-2 เม็ด

งานนี้ร้อนถึง ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับคอมเมนต์จากชาวเน็ตสอบถามถึงประเด็นนี้เช่นกัน จึงได้ออกมาให้ความรู้ผ่านทางเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ระบุว่า

ยาพาราเซตามอล เป็นยาสำหรับบรรเทาปวดจากสาเหตุต่างๆ ในระดับปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดหัว ปวดข้อเสื่อม ปวดกล้ามเนื้อ และใช้เป็นยาลดไข้ แต่จะไม่พอสำหรับการปวดขั้นรุนแรง เช่น แผลผ่าตัดใหญ่ หรือมะเร็ง โดยมากที่มีจำหน่ายกัน จะมี 2 ขนาด คือ ขนาด 325 มิลลิกรัม และขนาด 500 มิลลิกรัม ซึ่งต้องกินตามน้ำหนักตัว และการกินยาแต่ละครั้ง ควรกินห่างกันอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง และใช้เฉพาะเมื่อมีอาการ เช่น ปวดหรือมีไข้ เท่านั้น

ตามปกติสำหรับผู้ป่วยทั่วไป คือ ผู้ที่มีภาวะตับและไตเป็นปกตินั้น จริงๆ แล้วทางการแพทย์ระบุว่า ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถรับประทานยานี้ได้ 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และใน 1 วัน ไม่ควรกินเกิน 4 พันมิลลิกรัม โดยไม่รับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลานาน และถ้าทานแล้วไข้ไม่ลดภายใน 3 วัน หรือ อาการปวดในเด็กไม่บรรเทาภายใน 5 วัน หรือในผู้ใหญ่ไม่บรรเทาภายใน 10 วัน ควรไปพบแพทย์ เนื่องจากอาจเป็นอาการของโรคที่ร้ายแรงได้

ดังนั้น เราสามารถคำนวณจำนวนเม็ดของยาพาราเซตามอลที่เหมาะสม ที่จะกินตามน้ำหนักตัวของเรา ได้ดังนี้

  • ยาพาราเซตามอล ขนาด 325 มิลลิกรัม
    - น้ำหนัก 45-67 กิโลกรัม กิน 2 เม็ด (จะเห็นว่ากินทีละ 2 เม็ด ได้โดยปลอดภัยครับ)
    - น้ำหนัก 34-44 กิโลกรัม กิน 1 เม็ดครึ่ง
    - น้ำหนัก 22-33 กิโลกรัม กิน 1 เม็ด

  • ยาพาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม
    - น้ำหนัก 67 กิโลกรัมขึ้นไป กิน 2 เม็ด (จะเห็นว่ากินทีละ 2 เม็ด ได้โดยปลอดภัยครับ)
    - น้ำหนัก 51-67 กิโลกรัม กิน 1 เม็ดครึ่ง
    - น้ำหนัก 33-50 กิโลกรัม กิน 1 เม็ด

  • ยาพาราเซทามอล ยี่ห้อไทลินอล (Tylenol) ขนาด 650 มิลลิกรัม ชนิดเม็ดออกฤทธิ์นาน 8 ชั่วโมง
    - ผู้ป่วยอายุ 18 ปีขึ้นไป น้ำหนักตั้งแต่ 44 กิโลกรัมขึ้นไป กิน 2 เม็ด แต่ละครั้งห่างกันอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เฉพาะเวลาปวดหรือมีไข้
    - น้ำหนักน้อยกว่า 44 กิโลกรัม หรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ให้ใช้ยานี้ เพราะจะได้รับยาเกินขนาดที่แนะนำ ซึ่งอาจทำให้เกิดพิษต่อตับได้

สำหรับเด็กที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่า 22 กิโลกรัม ก็ไม่ควรรับประทานยาพาราเซตามอลแบบเม็ดทุกขนาด ควรเข้าพบแพทย์โดยตรงเพื่อปรึกษาอาการและยาที่ควรใช้ (จริงๆ สำหรับเด็กเล็ก จะกินเป็นแบบยาน้ำเชื่อม แล้วแพทย์จะช่วยคำนวณตามน้ำหนักตัวให้ ว่ากินกี่ซีซี)

ข้อควรระวังในการกินยาพาราเซตามอล

  • ห้ามกินยาพารา ขนาด 500 มิลิลกรัม เกิน 8 เม็ดต่อวัน หรือ 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ห้ามกินยากับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะมีผลเสียต่อตับ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่นที่มีพาราเซตามอลเป็นส่วนประกอบ เช่น ยาแก้หวัดบางชนิด ยาคลายกล้ามเนื้อบางชนิด เพราะอาจทําให้ได้รับยาเกินขนาด
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ หากดื่มสุราเป็นประจํา เป็นโรคตับหรือโรคไต
  • หากรับประทานยาแล้วเกิดอาการ เช่น บวมที่ใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก ลมพิษ หน้ามืด ผื่นแดง ตุ่มพอง ผิวหนังหลุดลอก ให้หยุดยาและรีบปรึกษาแพทย์ทันที
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้หากมีภาวะพร่องจีซิกซ์พีดี (G6PD) หรือกำลังใช้ยาวาร์ฟารินซึ่งเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดหนึ่ง เพราะอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยาได้ง่ายกว่าผู้อื่น
  • เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท พ้นแสงแดด และความร้อน เก็บให้พ้นมือเด็ก และสัตว์เลี้ยง อย่าเก็บในที่ชื้น เพราะจะทำให้ยาเสื่อมสภาพ

 

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ อ.เจษฎ์ เปิดวิธีคำนวน "กินพาราฯ ตามน้ำหนักตัว" หลังหมอเตือนกินทีละ 2 เม็ด ทำตับพัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook