"พี่ศรี" ฟ้อง จนท.รัฐตำแหน่งใหญ่ 4 ราย เอื้อ "นช.ทักษิณ" เชื่อมโยงนายกฯ และรัฐบาล!

"ศรีสุวรรณ" ยื่นศาลปกครอง ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ 4 ราย ใช้ดุลยพินิจเอื้อ ”ทักษิณ” ซัดนายกฯ ลอยตัวไม่สนใจ เรื่องนี้เชื่อมโยงกับรัฐบาล

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นศาลปกครอง ฟ้องเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานรัฐ ทั้งหมด 4 คน ด้วยกัน คือ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ , ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ , ผู้อำนวยการ รพ.ราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ฐานให้อำนาจหรือดุลยพินิจโดยมิชอบ และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ เอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่รพ.ตำรวจและยังมีการออกระเบียบเพื่อไปรักษาตัวนอกทัณฑสถาน ถือว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ในการยื่นฟ้องวันนี้ ขอให้ศาลไต่สวนเป็นการฉุกเฉิน เพื่อทุเลาการบังคับใช้ระเบียบต่างๆ เรื่องนี้เป็นมูลเหตุมาจากกรณีที่นายทักษิณ ได้เข้ามามอบตัวรับโทษตามคำพิพากษาของศาล เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทันได้ถูกจองจำหรือถูกคุมขังในทัณฑสถาน ก็มีความพยายามช่วยเหลือ ส่งให้นายทักษิณ ไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ซึ่ง พ.ร.บ.ปี 60 มาตรา 55 ได้ระบุไว้ว่าการส่งตัวผู้ป่วยหรือตัวผู้ต้องขังไปษาตัวที่ รพ. นอกทัณฑสถานนั้น จะต้องเป็นโรคที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตและโรคติดต่อ 2 โรคนี้เท่านั้น ส่วนโรคอื่นกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ ก็แสดงว่าไม่สามารถอนุญาติได้

ซึ่งตลอดระยะเวลา 120 วันที่ผ่านมา เราจะเห็นกิจกรรมที่สร้างเงื่อนไขในการที่จะให้นายทักษิณพักรักษาตัวต่อ ซึ่งป่วยจริงหรือป่วยไม่จริงก็ไม่มีใครสามารถพิสูจได้ แพทย์ พยาบาลอ้างมาโดยตลอดว่าเป็นเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคลมีกฎหมายรองรับ ซึ่งต่างจากนักโทษคนอื่นๆที่แพทย์สามารถออกมาบอกถึงอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ได้ ส่วนของนายทักษิณกลับปิดเงียบ จนมีประชาชนที่จับเป็นข้อพิรุธได้เยอะแยะมากมาย เพียงแต่ผู้ถูกฟ้องคดีก็ไม่ยี่หร่า ไม่สนใจ

“แม้แต่นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดก็ไม่สนใจกับกรณีนี้ เพราะอาจจะเป็นผู้มีส่วนได้เสียร่วมกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม การที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์จะใช้อำนาจโดยภาระการน่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการออกระเบียบ ว่าด้วยการให้ผู้คุมขังไปพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ กฎกระทรวงในปี 2563 ไม่ได้เขียนไว้ว่าจะต้องออกไปพักที่บ้านพัก ไปสถานประกอบการเอกชน วัดวาอาราม มัสยิด ไม่ได้เขียนไว้

แต่ระเบียบนี้กลับมาเขียนไว้มากกว่าที่กระทรวงกำหนด เข้าข่ายการเอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษที่ชื่อทักษิณ ถ้าจะมาอ้างว่าเพื่อให้คุกลดจำนวนคนผู้ต้องขัง ก็ไม่ได้ เพราะคุกที่ถูกจองจำหรือขังนักโทษไว้ 2-3 แสนราย ส่วนใหญ่ก็เป็นนักโทษที่มาจากยาเสพติด และเงื่อนไขของระเบียบนี้ก็ไม่สามารถไปเอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษที่เกี่ยวกับยาเสพติด งั้นคนที่จะได้รับประโยชน์แท้จริงก็คือ นักโทษที่มาจากโกงชาติ โกงแผ่นดินเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้โดยตรง” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า อำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลไม่ได้ จึงต้องนำความนี้มาร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้ศาลวินิจฉัยและยกเลิกคำสั่ง อนุญาติให้นายทักษิณ ไปพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ โดยด่วน

ส่วนจะมีแนวโน้มที่ราชทัณฑ์จะขอขยายเวลาการพักรักษาตัวนายทักษินต่อหรือไม่นั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ก็มีแนวโน้มอย่างนั้นมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ตนเชื่อมั่นว่า กระบวนการยุติธรรมศาลปกครอง จะรักษาบรรทัดฐานในเรื่องนี้ไว้ชัดเจน คำขอของตนที่ให้มีการไต่สวนฉุกเฉินเพื่อขอทุเลาบังคับตามระเบียบนี้ ถ้าศาลเห็นชอบด้วยก็ยะทำให้นายทักษิณกลับมาพักรักษาตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพหรือรพ.ราชทัณฑ์ต่อไป

เมื่อถามว่าถ้านายทักษิณได้ประโยชน์จากเรื่องของการพักรักษาตัวจำคุกนอกสถานที่ยะมีการดำเนินการอย่างไรต่อ นายศรีสุวรรณ ระบุว่า อาจจะต้องไปฟ้องคณะทำงานขึ้นมาอีก 1 คดี คณะทำงาน 9 คน ที่ในระเบียบเขียนไว้ ซึ่งเป็นรองอธิบดีคนใดคนหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับทัณฑสถาน ผู้อำนวยการ 7 คน ผู้เชี่ยวชาญอีก 2 คน ซึ่งถ้า 9 อรหัน เป็นคนชี้เป็นชี้ตายที่จะส่งเสนอเรื่องไปยังอธิบดีเพื่อเซนอนุมัติในขั้นสุดท้าย อาจจะต้องฟ้องบุคคลเหล่านี้ด้วย

ส่วนกรณีของนายทักษิณนั้นเกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือไม่นั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า “แน่นอนครับ เชื่อมโยงอยู่แล้ว คุณเศรษฐา ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดในฐานะนายกรัฐมนตรี ควรจะลงมาดูเรื่องนี้ เพราะว่าเป็นเรื่องของการทำลายกระบวนการยุติธรรม แต่คุณเศรษฐาก็ลอยตัว ไม่พูดถึงเรื่องนี้ไม่แตะเรื่องนี้เลย ก็เป็นที่รับรู้ของสังคมไทยอยู่แล้ว”