วิกิพีเดีย เผย 5 อันดับ เรื่องที่ถูกค้นหามากที่สุดในปี 2023 "แชตจีพีที" มาแรงแซงทุกเรื่อง!

สารานุกรมเนื้อหาเสรี วิกิพีเดีย (Wikipedia) รวบรวมและจัดอันดับเนื้อหาที่ได้รับการค้นหามากที่สุดแห่งปี 2023 และพบว่า แชตจีพีที (ChatGPT) เป็นเนื้อหาที่ได้รับการค้นหามากที่สุดในปีนี้ ตามรายงานของเอพี

มูลนิธิวิกิมีเดีย (Wikimedia Foundation) องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่อยู่เบื้องหลังสารานุกรมเนื้อหาเสรี วิกิพีเดีย เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ซึ่งมียอดเข้าชมเนื้อหามากกว่า 84,000 ล้านครั้งในปีนี้ เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า บทความที่เกี่ยวข้องกับแชตจีพีที แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ที่ได้รับการพูดถึงไปทั่วโลก ขึ้นแท่นเนื้อหาที่ได้รับการค้นหามากที่สุดประจำปีนี้

นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีก่อน แชตจีพีที เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าวได้เข้าไปสู่ภาคการศึกษา สาธารณสุข กฎหมาย และไปจนถึงการเทศนาธรรม แชตบอตปัญญาประดิษฐ์นี้ยังสร้างการถกเถียงที่มากขึ้น เกี่ยวกับศักยภาพและภัยอันตรายของ generative AI ซึ่งได้รับการบันทึกอยู่ในข้อมูลของสารานุกรมวิกิพีเดียด้วย

อันดับ 2 ตกเป็นของรายชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ล่วงลับในปี 2023 ซึ่งถือว่า มีการค้นหามากขึ้นเรื่อย ๆ โดยพุ่งจากอันดับ 4 ในปี 2022 มาอยู่ที่อันดับ 2 ในปีนี้ นอกจากนี้ยังมีการค้นหาประวัติของคนดังมากมาย อาทิ แมทธิว เพอร์รี ดาราจากซีรีย์ชื่อดังในยุค 90 'เฟรนด์ส' และลิซา มารี เพรสลีย์ ศิลปินและลูกสาวคนเดียวของตำนานร็อกแอนด์โรลล์ เอลวิส เพรสลีย์อีกด้วย

อันดับ 3 เป็นของการแข่งขันคริกเก็ต 2023 Cricket World Cup และ Indian Premier League 

อันดับ 4 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เนื้อหาเกี่ยวกับกีฬาคริกเก็ตได้รับการค้นหาเป็นอันดับต้นๆ นับตั้งแต่ มูลนิธิวิกิมีเดีย เริ่มการจัดอันดับนี้มาตั้งแต่ปี 2015

อันดับ 5 เป็นภาพยนตร์ ออพเพนไฮเมอร์ (Oppenheimer) ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญชีวประวัติของ เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ นักฟิสิกส์เจ้าของฉายา บิดาแห่งระเบิดปรมาณู จากฝีมือผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน

ส่วนประเทศที่มีการใช้วิกิพีเดีย ภาษาอังกฤษ มากที่สุดในปีนี้ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (33,200 ล้านครั้ง) สหราชอาณาจักร (9,000 ล้านครั้ง) อินเดีย (8,480 ล้านครั้ง) แคนาดา (3,950 ล้านครั้ง) และออสเตรเลีย (2,560 ล้านครั้ง)

ข้อมูลจากมูลนิธิวิกิมีเดีย จัดอันดับข้อมูลการค้นหาดังกล่าวเมื่อ 28 พฤศจิกายน และจะมีการอัพเดทการจัดอันดับอีกครั้งในวันที่ 3 มกราคมปีหน้า