นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลไม่มีเป้าหมายสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง

นายกรัฐมนตรียอมรับห่วงการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงพรุ่งนี้ วอนเสื้อแดงแจ้งกำหนดการเคลื่อนไหว เพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ยืนยันรัฐบาลไม่มีเป้าหมายสลายการชุมนุม ย้ำพร้อมเจรจาแต่ควรส่งตัวแทนคุยกรอบก่อน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) ว่า เป็นห่วงการชุมนุม เพราะยังไม่ทราบว่าผู้ชุมนุมมีแนวทางอย่างไร เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น ที่ผ่านมาบอกว่าจะเคลื่อน แต่วันนี้บอกว่าจะชุมนุมอยู่ที่สะพานผ่านฟ้า รัฐบาลอยากให้เหมือนในอดีต ที่เวลาผู้ชุมนุมจะทำอะไรให้แจ้ง เพื่อประโยชน์ในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้มีเป้าหมายบุกหรือสลายการชุมนุมแต่อย่างใด และยังทำงานตามปกติ แต่ก็ระมัดระวังอยู่ แม้การชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ระเบิดในสถานที่ต่างๆ เป้าหมายของรัฐบาล คือ เพื่อความสงบสุข เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ยังมีเหตุการณ์หลายจุดที่บ่งบอกยังมีคนฉกฉวยที่สร้างสถานการณ์ความรุนแรง

เมื่อถามว่า มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อรองไม่ให้ยึดทรัพย์ 3 หมื่นล้านบาทกับการยุติการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนนึกว่าเป็นเรื่องยุบสภาแล้วทำไมกลายเป็นเรื่อง 3 หมื่นล้าน เรื่องนี้ คือ ปัญหาที่ตนเรียกร้องมาตั้งแต่ต้นว่า เป็นข้อเรียกร้องเดียวหรือข้อเรียกร้องสุดท้ายจริงหรือไม่ วันนี้ทราบจากนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้มีหลายฝ่ายพยายามทำหน้าที่ในการเจรจา

เมื่อถามย้ำว่า หากคุยเรื่องยุบสภากันได้ นายกรัฐมนตรีพร้อมเจรจาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากยุบสภาแล้วเหตุการณ์ทั้งหลายจบหมด ตนก็ยินดี และหากจริงใจในการเจรจาต้องเริ่มจากการส่งตัวแทนมาพูดคุย เพื่อปูทางไปสู่กรอบการเจรจาก่อน

"ในเบื้องต้นก่อนการยุบสภา มันต้องให้เกิดความมั่นใจว่า ระหว่างที่มีการเลือกตั้ง จะไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวาย การบอกอย่างเดียวว่า หากเกิดความวุ่นวายก็เป็นแดงเทียม อย่างนี้คงรับฟังไม่ได้ ต้องมีการแสดงออกว่า จะร่วมกันรับผิดชอบอย่างไร เพราะฉะนั้น มันต้องมีวิธีการมาพูดคุยกัน หากยื่นเงื่อนไขว่ายุบสภาก่อนแล้วค่อยมาคุย อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาคุยเพราะยุบสภาแล้วก็ไม่รู้จะคุยอะไรกัน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ได้ประเมินหรือไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่ในสถานการณ์ภายใต้การดูแลของทหารและตำรวจเช่นนี้อีกนานแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดและงานของรัฐบาลต้องเดินหน้าต่อ และมั่นใจว่า การทำงานจะกลับมาเป็นปกติตามลำดับ ส่วนทหารและตำรวจมีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย และความมั่นคง เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารทำงานได้เป็นปกติ ไม่ถูกขัดขวางโดยกลุ่มคน ซึ่งตรงกันข้ามกับการปฎิวัติที่เป็นการยึดอำนาจของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้การชุมนุมที่กระทบอย่างชัดเจน คือ การท่องเที่ยวและดัชนีความเชื่อมั่น แต่พื้นฐานโดยรวมของประเทศไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่ต้องดูเป็นพิเศษคือการไหลเข้าของเงินทุน เพราะส่งผลต่อแรงกดดันของค่าเงินบาท ซึ่งรัฐบาลก็ติดตามตัวเลขอย่างละเอียด

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงขึ้นป้ายข้อความว่า "สันติ สงบ ยุบสภา" ในพื้นที่กรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นคือข้อคิดของคนเสื้อแดง แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่บอกตนไม่ให้ยุบสภา ซึ่งตนบอกว่าทุกอย่างอยู่ที่เหตุผล ความสงบสันติเป็นสิ่งที่ทุกเห็นด้วย ส่วนทางออกทางการเมืองต้องมีเหตุผลมาว่ากัน และมีผู้ใหญ่หลายคนทั้งในและนอกวงการส่งความเห็นมาให้ตนเป็นระยะๆ ตนรับฟังทุกเสียง

ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุการณ์พบระเบิด เอ็ม 67 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานเพียงว่ากู้ระเบิดได้เท่านั้น และรัฐบาลคงต้องพยายามมากขึ้นในการป้องกัน ตนเชื่อว่า วันนี้ประชาชนเข้าใจว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร