สื่อยุ่นยกย่องไอ้กรกลับมาทวงยิ่งใหญ่
ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ 2 แชมป์โลก "พงษ์ศักดิ์เล็ก-โอเล่ห์ดง" สร้างประวัติศาสตร์ในถิ่นปลาดิบ
เดิน ทางกลับสู่มาตุภูมิอย่างยิ่งใหญ่ ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ 2 แชมป์โลก "พงษ์ศักดิ์เล็ก-โอเล่ห์ดง" ที่สร้างประวัติศาสตร์ในถิ่นปลาดิบ ลั่น ไม่หวั่น ใครหน้าไหน ยินดีพร้อมเดินทางไปป้องกันเข็มขัดทั่วโลก
ขณะที่ สื่อยุ่น ยกย่องหลังกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ในรอบ 2 ปี ด้าน ผู้จัดการของ คุโรกิ ยังข้องใจ ทาบทาม ขอล้างตาอีกครั้ง เช่นเดียวกับทาง โกกิ คาเมดะ ซึ่งพร้อมทุ่มเงิน เพื่อจัดรีแมทช์อีก ส่วน ไนโตะ ไดสึเกะ ยกนิ้วให้กับ "เจ้ากร" ว่า สุดยอดมาก แต่เมื่อวิถีทางมวยหลีกหนีกันไม่พ้น ก็ต้องลืมคำว่า เพื่อน เพื่อเปิดศึกกัน ในภาคที่ 5 ด้าน "เสี่ยเน้า" ดีใจ ที่สร้างประวัติศาสตร์ ส่วน คิวชกครั้งต่อไปจะให้ โอเล่ห์ดง ได้อุ่นเครื่อง ในเดือนมิ.ย. ส่วน พงษ์ศักดิ์ เล็ก อาจป้องกันในเมืองไทย ก่อน 1 ครั้ง แล้วก็มาให้ ไนโตะ ไดสึเกะ พิสูจน์ฝีมืออีก
ภายหลังจากที่ ประสบชัยชนะอย่างงดงาม เหนือนักชกญี่ปุ่น สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการมวย ในฐานะที่ไม่เคยมีนักมวยคนใดขึ้นชกพร้อมกัน 2 คู่ โดยโอเล่ห์ ดง ซีพีเฟรชมาร์ท เอาชนะแต้ม ยาสึทากะ คุโรกิ ป้องกันแชมป์ 105 ปอนด์ สภามวยโลกไว้ได้ ขณะที่ พงษ์ศักดิ์เล็ก ไก่ย่างห้าดาวยิม ก็เอาชนะ โกกิ คาเมดะ ไปอย่างสะใจ ได้ครองแชมป์โลก รุ่น 112 ปอนด์ สภามวยโลกอีกสมัยในการเปิดศึก เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นในช่วงกลางดึก ทาง "เสี่ยเน้า" วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ผู้จัดการชกได้จัดเลี้ยงฉลองชัยชนะให้กับแชมป์โลก ทั้ง 2 ที่ไปสร้างชื่อในแดนปลาดิบ ที่ โรงแรมซันไชน์ซิตี้ สถานที่พัก ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเมื่อได้เวลาอันควร
ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค. ทางด้าน พงษ์ศักดิ์เล็ก และ โอเล่ห์ดง ได้ตื่นนอนแต่เช้า ทำธุรกิจส่วนตัวเสร็จสิ้น ก็ลงจากห้องพัก หมายเลข 2003 เพื่อลงไปรับประทานอาหารมื้อเช้า จากนั้นก็ไปเดินเล่นที่บริเวณห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ติดกับโรงแรม โดยภายในห้าง มีสินค้าต่างๆ ให้เลือกมากมาย และทางนักชก ทั้ง 2 ต่างก็เลือกหาซื้อของฝาก ไปฝากเหล่าบรรดาญาติพี่น้องอีก โดย โอเล่ห์ดง เลือกซื้อทั้งเสื้อผ้าของที่ระลึก ส่วน "เจ้ากร" หาซื้อเสื้อสวยๆ ไปฝากแม่สถิตย์ วันจงคำ พร้อมของที่ระลึกให้กับบรรดา ญาติๆ และเพื่อนฝูงคนที่รู้จัก หมดเงินสำหรับการจับจ่ายใช้สอยไปพอมควร หลังจากนั้นทั้ง 2 แชมป์โลก ก็กลับสู่ห้องพัก รอเวลาเดินทางไปสนามบิน พร้อมกับ กลุ่มคณะ เพื่อเดินทางกลับสู่เมืองไทย โดยสายการบินเดลต้าแอร์ เที่ยวบิน DL 295
ด้าน พงษ์ศักดิ์เล็ก ไก่ย่างห้าดาวยิม ที่กลับมาครองแชมป์โลกอีกครั้ง ในวัย 32 ปี ได้กล่าวกับ ผู้สื่อข่าวว่า ไฟท์นี้ตนทุ่มเทให้กับการฟิตซ้อมอย่างเต็มที่ จนทำให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งนับจากวันนี้ ตนจะขอพักผ่อน จะกลับเข้าค่ายเพื่อฟิตซ้อมก็หลังจากสงกรานต์แล้ว โดยภาระต่อไปนั้น ตนจะต้องไปแก้บน ที่ วัดแห่งหนึ่ง ใน จ.สุโขทัย โดยที่ผ่านมาได้บนลิเกไว้ พร้อมทั้งจัดแก้บนชกมวยอีก 2 คู่ เช่นเดียวกับที่ โคราช บ้านเกิดตน ก็แก้บนไว้เช่นกัน โดยเมื่อเดินทางกลับถึงเมืองไทยแล้ว ตนจะเดินสายแก้บนให้เสร็จสิ้น
จากนั้น แชมป์โลกหน้าหยก ได้เผยถึงคิวชกครั้งต่อไปว่า ตนไม่ทราบทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้จัดการ ตนมีหน้าที่ซ้อมเท่านั้น ซึ่งเวลานี้ตนไม่หวั่น ใครหน้าไหนทั้งสิ้น โดยพร้อมพิสูจน์กับนักชกทุกคนทั่วโลก สำหรับ ไนโตะ ไดสึเกะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นทั้งเพื่อนและศรัตรูนั้น เมื่อถึงเวลาก็พร้อมที่จะเปิดศึก ในภาคที่ 5 "ล่างเวทีเราคือเพื่อนกัน แต่บนเวทีเราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ โดยเมื่อวาน เขาก็มาดูผม พร้อมทั้งเข้ามาแสดงความยินดีด้วย ที่ผมได้แชมป์โลก ซึ่ง ไนโต๊ะ นิสัยดีมาก ทุกอย่างเสมอต้นเสมอปลาย"
สำหรับ ทางด้าน โอเล่ห์ดง นั้น ได้เผยว่า ตนได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า ไม่ได้มีความตื่นเต้นเลย ซึ่งนับจากนี้ไปจะขอพักผ่อนให้เวลากับครอบครัวสักระยะ อย่างไรก็ตาม มีอีกหลายสิ่ง หลายอย่าง ที่จะต้องแก้ไข ไม่ว่า จะเป็นเรื่องของเรี่ยวแรง การยืนระยะน้ำหนักหมัด ซึ่งเหล่านี้ตนจะนำไปแก้ไขปรับปรุงต่อไป
ในส่วนของ"เสี่ยเน้า" วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ที่สีหน้าเปื้อนยิ้มตลอด ได้กล่าวถึง คิวชกครั้งต่อไปของโอเล่ห์ดง และ พงษ์ศักดิ์เล็ก ว่า ตอนนี้ ยังไม่ได้คิดอะไร เพราะยังปลื้มใจกับชัยชนะที่ได้มาไม่หาย แต่กระนั้นก็ได้เตรียมการณ์ไว้คร่าวๆ โดยรายของโอเล่ห์ดงนั้น จะให้อุ่นเครื่องในเดือนมิ.ย. ส่วนเดือนส.ค. จะให้ป้องกันตำแหน่ง ส่วนสถานที่ชกนั้น คงเป็นที่เมืองไทย ซึ่งเรื่องนี้จะมีการปรึกษาหารือกับทาง ดร.พงษ์ วิเศษไพฑูรย์ ผู้ให้การสนับสนุนอีกครั้ง
สำหรับ รายของ "เจ้ากร" นั้น ทางโปรโมเตอร์แหวนเพชร ได้กล่าวว่า เวลานี้มีทางญี่ปุ่นได้ติดต่อมาแล้ว ทว่า ตนยังไม่ได้ตกปากรับคำ แต่คิดว่าจะให้ป้องกันในเมืองไทยก่อน ส่วน ไนโตะ ไดสึเกะ นั้น ได้เจอกันแน่ โดย ทาง มิยาตะ ซึ่งเป็นผู้จัดการเขา ก็อยากจัดเพราะเป็นคู่มวยที่ชาวญี่ปุ่น ให้ความสนใจ
สำหรับ โกกิ คาเมดะ ที่บัดนี้ได้กลายเป็นอดีตแชมป์โลกไปแล้วได้รับการตำหนิจากทีมงาน รวมทั้ง ชิโร่ ผู้เป็นพ่ออย่างมากที่ โกกิ ไม่ชกตามแผนที่วางไว้ก่อนที่จะวางเป้าตามเฉ่งแค้น พงษ์ศักดิ์เล็ก โดยจะขออุ่นเครื่อง เรียกความมั่นใจกลับคืนมาแล้วจะทาบทามให้ พงษ์ศักดิ์เล็ก มาป้องกันที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยทาง ผู้สนับสนุน พร้อมทุ่มเม็ดเงินก้อนโตเพื่อจัดรีแมทช์อีก
ด้าน ไนโตะ ไดสึเกะ คู่ปรับตลอดกาลของ "เจ้ากร" ที่เดินทางมาชมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย ได้เข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนรักพร้อมทั้ง ยกนิ้วว่า ขนาดอายุ 32 แล้ว พงษ์ศักด์เล็ก ยังชกได้ดีมาก ๆ จนทุกคน ทึ่ง สำหรับตนแล้วยังไม่พร้อมเจอ พงษ์ศักด์เล็ก ในเวลานี้ โดยไว้ให้ผ่านพ้นคิวชกอุ่นเครื่องกับ สุริยันต์ ป.โชคชัย ในวันที่ 9 เม.ย.ก่อน แล้วค่อยคิดอีกครั้ง แต่วิถีทางมวย เราต้องได้เจอกันอีก