มือมืดกราดยิงธ.กรุงเทพสาขาสะพานขาว
มือมืดเย้ยกฎหมาย ยิงปืนใส่แบงก์กรุงเทพ สาขาสะพานขาว ย่านโบ๊เบ๊ กระจกแตกเสียหายก่อนเผ่นหนี ตำรวจเร่งเก็บหลักฐานล่า
เกิดเหตุคนร้ายยิงปืนเข้าไปภายใน ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานขาว ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตลาดโบ๊เบ๊ จากการตรวจสอบไปยัง พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้รับการยืนยันว่า มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเบื้องต้น มีพยานระบุว่า มีชายแต่งชุดดำ ไม่มีการปิดบังอำพรางใบหน้า ยืนอยู่บนบาทวิถี หน้าธนาคาร จากนั้นก็ชักอาวุธปืน ไม่ทราบขนาดยิงเข้าไปภายใน ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานขาว จำนวน 3 นัด เป็นเหตุให้กระจกของธนาคารแตกเสียหายจำนวน 3 บาน จากนั้น คนร้ายก็หลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ กำลังส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมกับเตรียมสอบสวนพยาน เพื่อสเกตช์ภาพคนร้ายและเก็บหลักฐานจากล้องวงจรปิด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ไล่ล่าคนร้ายต่อไป
ล่าสุด พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เดินทางเข้าร่วมในที่เกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่อยู่ภายในธนาคารปรากฎว่า กล้องวงจรปิดของธนาคาร สามารถจับภาพผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน โดยรูปพรรณสันฐานของคนร้าย ตรงกับที่พยานให้ปากคำไว้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น เป็นอาวุธปืน ขนาด.38 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้ตรวจสอบแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. กล่าวถึง ความคืบหน้ากรณีคนร้ายยิงอาวุธปืนเข้าใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานขาว เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาว่า กล้องวงจรปิดบริเวณแยกสะพานขาว สามารถจับภาพของผู้ก่อเหตุไว้ได้ เป็นชายสวมเสื้อสีฟ้า เสื้อคลุมสีเข้ม สวมหมวกแก๊ป ใช้ผ้าปิดบังใบหน้าสีขาว และเดินข้ามฝั่งมาที่ธนาคารแล้ว ใช้อาวุธปืนยิงธนาคารก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ของเพื่อนที่จอดรออยู่ บริเวณแยกสะพานขาว และขับหลบหนี มุ่งหน้าไปทางแยกเทวกรรม ซึ่งขณะนี้พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในพื้นที่ นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดของธนาคาร และร้านค้าใกล้เคียง ก็สามารถบันทึกภาพของผู้ก่อเหตุไว้ได้
ในส่วนของการเพิ่มมาตรการป้องกันเหตุร้ายนั้น ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ผู้กำกับการทุก สน.เพิ่มกำลังสายตรวจในพื้นที่ ซึ่งเป็นกองร้อยควบคุมฝูงชนที่เป็นกองหนุนอีกประมาณ 1,000 นาย การตั้งจุดตรวจในพื้นที่ ตั้งสายตรวจรถ จักรยานยนต์ และสายตรวจเดินเท้า โดยเน้นตรวจเข้มในสถานที่ ที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง อาทิ ประตูน้ำ ซังฮี้ และจุดที่เป็นทางผ่านของผู้ชุมนุม