นโยบายประกันรายได้ดันผลผลิตข้าวนาปีเพิ่ม

นโยบายประกันรายได้ดันผลผลิตข้าวนาปีเพิ่ม

นโยบายประกันรายได้ดันผลผลิตข้าวนาปีเพิ่ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เลขาฯ สศก. เผย นโยบายประกันรายได้จูงใจเกษตรกรเพาะปลูก ดันผลผลิตข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ถึงผลพยากรณ์ผลผลิตสินค้าเกษตรปี 2553 ผลผลิตข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในภาพรวม ซึ่งพบว่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากความสำเร็จของนโยบายประกันรายได้จูงใจให้เกษตรกรเพาะปลูกมากขึ้น ตลอดจนราคาที่อยู่ในระดับสูง โดยข้าวนาปรังปี 2553 พบว่า เนื้อที่เพาะปลูกยังคงเพิ่มขึ้น แม้ปริมาณน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูกน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ภาพรวมผลผลิตพบว่าลดลง เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ และการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล สำหรับพืชไร่ โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และถั่วลิสง ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้ในปีนี้อาจได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญ แต่เนื่องจาก พืชตระกูลถั่วดังกล่าวเป็นพืชทนแล้ง ใช้น้ำน้อย จึงไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก

ในส่วนของอ้อยโรงงานมีผลผลิตเพิ่มขึ้นมาก จากราคาขั้นต้นที่สูงถึงตันละ 965 บาท จูงใจให้เกษตรกรเพาะปลูกอ้อยเพิ่มขึ้น แต่มันสำปะหลังเนื้อที่เก็บเกี่ยวและผลผลิตลดลง จากการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพู และมีแนวโน้มจะลดลงมากขึ้น หากเกษตรกรไม่ร่วมมือป้องกันกำจัด ด้านสับปะรดผลผลิตยังคงเพิ่มขึ้น แม้ประสบปัญหาภัยแล้งในแหล่งผลิตใหญ่ในภาคกลางบ้างก็ตาม สำหรับปาล์มน้ำมันและยางพารา พบว่า เนื้อที่ให้ผลและผลผลิตยังคงเพิ่มขึ้นจากการปลูกในพื้นที่เดิม ทดแทนต้นอายุมากในภาคใต้ และในพื้นที่ใหม่ในภาคอื่นเริ่มทยอยให้ผลผลิตแล้ว

ในส่วนของไม้ผล ได้แก่ เงาะ มังคุด และลองกอง ผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ออกดอกมาก และค่อนข้างสมบูรณ์ ยกเว้นทุเรียน และลิ้นจี่ที่ผลผลิตลดลง เนื่องจากในปีที่ผ่านมา มีการโค่นต้นทุเรียนที่เป็นโรคและอายุมาก แต่สำหรับลิ้นจี่ลดลง เนื่องจากอากาศหนาวไม่ต่อเนื่อง ทำให้ติดดอกน้อย ส่วนกระเทียมและหอมแดงให้ผลผลิตลดลง เนื่องจากขาดแคลนเมล็ดพันธุ์สำหรับเพาะปลูก ด้านหอมหัวใหญ่กับมันฝรั่งมีผลผลิตเพิ่มขึ้น จากราคาจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มเนื้อที่เพาะปลูก และมีการสนับสนุนจากภาคเอกชนให้เพาะปลูกเพิ่มขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook