หนีตามกันมา 37 ปี ได้ฤกษ์แต่ง สินสอดเงิน ทอง รถหรู เกือบ 20 ล้าน สั่งแขกห้ามใส่ซอง
หนีตามกันมา 37 ปี เริ่มชีวิตคู่จากศูนย์ วันนี้ได้ฤกษ์แต่ง สินสอดเงิน ทอง รถหรู 4 คัน มูลค่าเกือบ 20 ล้าน สั่งแขกมางานห้ามใส่ซอง
วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ที่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 4 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ นายประจักษ์ เหมือดขุนทด อายุ 58 ปี หนุ่มใหญ่หอบสินสอด เงินสด 1 ล้าน ทอง 10 บาท รถยนต์ 4 คัน มีทั้ง รถเบนซ์ เปิดประทุนรุ่น SLK 200, รถเบนซ์ รุ่น GLC 220 D , รถเบนซ์ รุ่น GLC 43 และ รถยนต์ตู้ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ALPHARD รวมมูลค่าสินสอด เกือบ 20 ล้าน เพื่อสู่ขอ หรือทำพิธีมงคลสมรส นางสำเนียง เรืองสุรีย์ อายุ 58 ปี ซึ่งทั้ง 2 อยู่กินด้วยกันมานาน 37 ปี แล้ว
โดยเดิมที ทั้งคู่ ทำงานรับจ้างก่อสร้าง และ รับจ้างรายวัน เมื่อพบรักกัน ทั้ง 2 จึงพากันหนีมาเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ อยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของฝ่ายชาย โดยไม่ได้ทำพิธีแต่งงานกัน และเริ่มสร้างตัวโดยการค้าขาย ตามตลาดนัดของหมู่บ้าน พอมีเงินและหยิบยืมเงินจากพี่น้อง จึงเดินทางไปขอขมาแม่ฝ่ายหญิง ด้วยเงิน 10,000 บาท แต่ยังไม่ได้ทำพิธีแต่งงาน การใช้ชีวิตคู่ของทั้ง 2 เริ่มชีวิตจากแทบไม่มีอะไรเลย ก็ประหยัดอดออม จนพอจะมีทุนทำธุรกิจค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนั้นก็มาจับธุรกิจขายไข่ อย่างจริงจังจนมีเงินขึ้นมา วันนี้พอมีฐานะ และ ความพร้อม ฝ่ายเจ้าสาวจึงอยากจะให้สามีจัดพิธีแต่งงานให้ทางญาติ ๆ และชาวบ้านได้เป็นพยานรัก
โดยทางฝ่ายเจ้าบ่าว จึงนำสินสอดมาจัดพิธีแต่งงานให้กับทางฝ่ายภรรยา หลังอยู่กินกันมานานถึง 37 ปี โดยฝ่ายเจ้าภาพ ได้เชิญชาวบ้าน ให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมงคลสมรส แต่มีข้อแม้ ห้ามนำเงินใส่ซองมาช่วยงานเด็ดขาด แต่ขอให้มาร่วมงานก็พอแล้ว โดยขบวนขันหมาก เริ่มขึ้นในช่วงสายของวันนี้ นำโดยขบวนรถยนต์หรู นำขันหมาก 4 คัน ขบวนเจ้าบ่าวพร้อมสินสอด โดยเมื่อมาถึงบ้าน ก็ได้มีการทำประตูเงิน ประตูทอง ต้อนรับเจ้าบ่าว แต่งานนี้ประตูเงิน ประตูทอง มีมากถึง 9 ประตู เรียกว่าเจ้าบ่าวถึงกับออกปาก "หมดเงินแล้ว" เรียกเสียงฮาให้กับญาติฝ่ายเจ้าสาวเป็นอย่างมาก พิธีแต่งก็ทำแบบเรียบง่าย เช้ามีพิธีสงฆ์ รดน้ำสังข์ อวยพรผูกข้อไม้ข้อมือ เน้นห้ามแขกนำเงินใส่ซองมาให้ ส่วนอาหารต้อนรับแขก็ป็นโต๊ะจีน 20 โต๊ะ และมีพิธีตัดเค้ก ก็เป็นอันเสร็จพิธี
จากการสอบถาม นายประจักษ์ เหมือดขุนทด อายุ 58 ปี และ นางสำเนียง เรืองสุรีย์ อายุ 58 ปี เจ้าบ่าว-เจ้าสาว เล่าว่า วันนี้ตนแต่งงานครั้งแรก ก่อนหน้านี้หนีตามกันมาอยู่ตามประสา ทำงานก่อสร้าง แล้วมาพบรักกัน จึงมาอยู่ด้วยกัน สมัยนั้นไม่ได้สู่ขอ เริ่มต้นนั้นนั้นตนเองทำก่อสร้างโดยทำมาเรื่อยๆ แล้วก็มาค้าขาย คือทำมาแบบพออยู่พอกิน ทำมาเรื่อยๆ ใช้จ่ายอย่างประหยัด ไปขายของทุกตลาดนัด ฝ่ายเจ้าบ่าว เผย เคยไปขอขมาฝ่ายเจ้าสาวคือตอนนั้นตนเองยืมเงินญาติจำนวน 10,000 บาทไปขอขมาแกก็เลยให้ข้าวมันไก่ 10 กล่อง ซึ่งตอนนั้นก็นานมากแล้ว 37 ปี วันนี้ดีใจมากเพราะทางนี้อยากจะแต่ง ก่อนหน้านี้ยังไม่พร้อมไม่รู้จะทำยังไง มาพร้อมตอนอายุมาก คือ แต่งก็แต่ง
วันนี้บอกแขกว่าไม่ต้องนำเงินใส่ซอง ขอแค่มาเป็นสักขีพยาน ไม่ต้องเอาเงิน มากินข้าวมามีความสุขด้วยกัน เพราะเราเคยจน เราเลยอยากให้คนมีความสุขด้วยกัน ไม่ต้องเสียเงินแต่ก็มีความสุขได้ คือแขกก็มาเยอะแต่กลับบ้างแล้ว หลายคนเกรงใจก็ไม่กล้ามา เพราะเราประกาศว่าไม่รับซอง
ด้าน นางบ่อ งามผ่อง อายุ 61 ปี พี่สาว และ นางสาวสิริพร เหมือดขุนทด อายุ 48 ปี น้องเจ้าบ่าว เล่าว่า ตนเองดีใจที่ทั้ง 2 ได้แต่งงาน และ ปลื้มใจมาก ก่อนหน้านี้ทั้งสองไม่เคยได้แต่งงานกัน คือเค้าไปทำงานก่อสร้าง แล้วเจอกันก็เลยหนีตามกันมา มาอยู่ที่เพชรบูรณ์ ก็มาค้าขายขายของเล็กๆน้อยๆ ค้าขายขายบ้าง ก่อร่างสร้างตัวจนเขามีทุกวันนี้ พอเขามีเขาก็อยากแต่งเพราะเป็นความฝันของทั้ง 2 คนตอนที่เค้ามาปรึกษาดีใจมาก ก่อนหน้านี้เคยไปขอขมาฝ่ายหญิง โดยมีข้าวมันไก่ไปเลี้ยงเพราะไม่มีเงิน เลยซื้อข้าวมันไก่เป็นกล่อง สมัยก่อนพ่อแม่ยากจนแต่ปัจจุบันทั้งคู่ประสบความสำเร็จแล้ว
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ