ลูกดารางอแงกลางห้างฯ นอนดิ้นร้องลั่น แต่พ่อไม่ดุ ยืนมองอย่างสงบ รู้เหตุผลคนไม่ด่า

ลูกดารางอแงกลางห้างฯ นอนดิ้นร้องลั่น แต่พ่อไม่ดุ ยืนมองอย่างสงบ รู้เหตุผลคนไม่ด่า

ลูกดารางอแงกลางห้างฯ นอนดิ้นร้องลั่น แต่พ่อไม่ดุ ยืนมองอย่างสงบ รู้เหตุผลคนไม่ด่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใครมองก็เหลือเชื่อ ลูกดารางอแงกลางห้างฯ นอนดิ้นร้องลั่น แต่พ่อ-ปู่ยืนมองนิ่งๆ ไม่ดุ ไม่จัดการ ใช้ความสงบสยบดราม่า

บ่อยครั้งที่เราเห็นเด็กเล่นเสียงดัง หรือร้องไห้งอแงในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ศูนย์การค้า ร้านอาหาร พฤติกรรมที่ควบคุมไม่ได้ของเด็กน้อยนั้น ไม่เพียงแต่สร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้างเท่านั้น แต่ยังทำให้แม้แต่พ่อแม่อับอายเพราะรับมือไม่ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม มีกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2560 คนดังระดับโลกอย่าง “จัสติน บัลโดนี” ที่เป็นทั้งนักแสดง ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน  ซึ่งเป็นที่รู้จักดีจากผลงาน Jane the Virgin ละครโทรทัศน์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ของอเมริกา ได้แชร์และบอกเล่าเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกสาวตนเอง ได้นำมาซึ่งบทเรียนสำคัญในการเลี้ยงดูบุตรในปัจจุบันของผู้ปกครองทุกคน

ตามรายงานพบว่า นักแสดงหนุ่มไปชอปปิ้งที่ซูเปอร์มาร์เก็ต Whole Foods พร้อมกับครอบครัว และเนื่องจาก "ไมยะ" ลูกสาวตัวน้อยพบเจอสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ จึงทิ้งตัวนอนลงบนพื้น ร้องไห้เสียงดังสุดขีดด้วยความโกรธเคือง โดยมีผู้คนมากมายเฝ้ามองเหตุการณ์ และรอดูว่าผู้ปกครองจะรับมืออย่างไร

อย่างไรก็ตาม แทนที่จะปลอบลูกสาวตัวน้อยๆ นักแสดงหนุ่มและพ่อของเขากลับสงบสติอารมณ์ และอดทนต่อพฤติกรรมของลูกสาวหรือหลานสาวอย่างถึงที่สุด ในขณะที่คุณแม่ของเด็กน้อยรับหน้าที่ถ่ายภาพ และพวกเขาก็ไม่รู้สึกเขินอายต่อสายตาหรือนิ้วชี้ที่พุ่งตรงมาจากทุกทิศทางด้วย

เมื่อมองแวบแรก หลายคนอาจคิดว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่หรือคุณปู่ที่ไม่ได้เรื่อง เนื่องจากปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แต่นักแสดงหนุ่มได้อธิบายการกระทำของพวกเขาอย่างมีเหตุผล พร้อมบอกด้วยว่าทัศนคติที่จะอดทนต่อเด็กๆ เขาเรียนรู้มาจากพ่อนั่นเอง

"พ่อสอนผมมากมายเกี่ยวกับความหมายของการเป็นผู้ชาย แต่โพสต์นี้เกี่ยวกับสิ่งหนึ่งและสิ่งเดียวเท่านั้น สิ่งที่ผมโตมาโดยเห็นเขาทำกับผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมจำได้เสมอว่าพ่อทำอย่างไรระหว่างที่ผมแสดงอาการโกรธ และนั่นช่วยให้ผมกลายเป็นเหมือนพ่ออย่างทุกวันนี้ 

"ไม่มีพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบ แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อสอนผมคือการไม่เลี้ยงดูลูกโดยยึดตามสิ่งที่คนอื่นคิด"

“พ่อมักจะปล่อยให้ผมรู้สึกในสิ่งที่ผมควรจะรู้สึก แม้ว่าจะอยู่ในที่สาธารณะ และสิ่งที่ผมทำนั้นกำลังทำให้เขาอับอายก็ตาม เท่าที่ผมจำได้ เขาไม่เคยพูดประมาณว่า 'ลูกทำให้พ่ออับอาย!' หรือ 'อย่าร้องไห้!' เลยสักครั้ง”

“จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ผมเพิ่งตระหนักได้ว่าสิ่งนี้สำคัญต่อพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กเพียงใด ลูกสาวของเรากำลังเรียนรู้และประมวลผลข้อมูลมากมาย และเธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับความรู้สึกใหม่ๆ เหล่านี้ ดังนั้นจึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าเธอกำลังเผชิญกับอารมณ์ด้านลบ”

“ผมไม่รู้สึกเขินอายเมื่อลูกแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวในร้านขายของชำ หรือกรีดร้องบนเครื่องบิน เราไม่ควรละอายใจกับการกระทำหรือพฤติกรรมของลูกๆ ผมเป็นพ่อของเธอ…ไม่ใช่ของคุณ อย่าได้ต้องอับอายเพราะลูกหลานเราเลย  มันไม่ได้สะท้อนว่าคุณรู้วิธีสอนเด็กหรือไม่”

"อันที่จริง… เราน่าจะใจดีและอดทนกับตัวเองมากกว่านี้อีกหน่อยด้วยเช่นกัน หากเราสามารถปล่อยวางอารมณ์ทั้งหมดของเราได้อย่างง่ายดาย และปล่อยให้ตัวเองโกรธได้ตลอดเวลา เราก็สามารถเตือนตัวเองให้ร่าเริงและมีความสุขมากขึ้นได้เช่นกัน นั่นคือสิ่งที่โลกต้องการอีกสักหน่อย”

หลังจากที่ “จัสติน บัลโดนี” โพสต์ภาพและเล่าเรื่องราวบนเพจส่วนตัวของเขา หลายคนก็สนับสนุนสิ่งที่เขาและภรรยาทำ ในขณะที่ชีวิตยังคงพัฒนาต่อไปพร้อมกับข้อกำหนดที่สูงขึ้น และมีอารยธรรมมากขึ้น ความกดดันในการเป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

แต่การเป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบไม่ได้หมายความว่าลูกของคุณจะไม่มีวันโกรธ หงุดหงิด หรือสับสน ดังที่บัลโดนีเขียนไว้ว่า "จริงๆ แล้ว เด็กวัยหัดเดินเพิ่งเริ่มเรียนรู้และสำรวจขอบเขตของโลก แน่นอนว่าจะต้องมีอารมณ์มากมายเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาเผชิญกับสิ่งต่างๆ และสถานการณ์ที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้"

"สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ต้องไม่สอนลูกให้ซ่อนความรู้สึกเหล่านั้น หรือเก็บกดไว้ เพราะกลัวว่าจะถูกเยาะเย้ย การแสดงออกมาผ่านอารมณ์ความรู้สึก หรือเพียงแค่ร้องไห้ 'อย่างอิสระ' กลางร้านขายของชำ ถือเป็นทักษะสำคัญสำหรับเด็กๆ ในการเรียนรู้"

อัลบั้มภาพ 45 ภาพ

อัลบั้มภาพ 45 ภาพ ของ ลูกดารางอแงกลางห้างฯ นอนดิ้นร้องลั่น แต่พ่อไม่ดุ ยืนมองอย่างสงบ รู้เหตุผลคนไม่ด่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook