ขนลุก! สาวใหญ่ตายแล้วฟื้น บอกได้ยินเสียงพูดประโยคนี้ หมอเห็นผลเอ็กซเรย์ยิ่งช็อก
เคสขนหัวลุก สาวใหญ่ตายแล้วฟื้น เล่าช่วงโคม่าได้ยินเสียงบอก "เจ้าจะไม่ตาย" หมอเห็นกับตายังตะลึง ผลเอ็กซเรย์ออกมายิ่งช็อก
โลกหลังความตาย เป็นเรื่องที่หลายคนตั้งข้อสงสัย แต่ยังคงไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้ เพราะมีแต่คนตายแล้วเท่านั้นที่จะรู้ และแน่นอนว่าคนตายแล้วย่อมกลับมาเล่าไม่ได้
อย่างไรก็ดี มีกรณีของ "เคิร์สตี บอร์ทอฟต์" วัย 49 ปี คุณแม่ลูกสามชาวอังกฤษ ที่ตกเป็นข่าวใหญ่จากเหลือการณ์เหลือเชื่อ "ตายแล้วฟื้นคืนชีพ" พร้อมเล่าประสบการณ์ที่เจอระหว่าง "เสียชีวิต" เป็นเวลาประมาณ 40 นาที ทำให้ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น คืนเกิดเหตุคือ 29 มกราคม พ.ศ.2564 เคิร์สตีกำลังออกเดทกับคู่หมั้นของเธอ แต่หลังจากช่วงเวลาอันประเสริฐนั้นเอง จู่ๆ เธอถูกพบว่านอนนิ่งอยู่บนโซฟาโดยที่ตายังเปิดค้างอยู่ หลังจากหัวใจหยุดเต้นกะทันหันและถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินในอาการโคม่า
เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ก็พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่คนไข้ยังคงไม่มีสัญญาณตอบสนองใดๆ ในตอนนี้แพทย์ระบุว่ามีโอกาสรอดชีวิต 6 เปอร์เซ็นต์ และขอให้สมาชิกในครอบครัวเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ที่น่าแปลกประหลาดคือหลังจากไร้สัญญาณชีพไปนานถึง 40 นาที จู่ๆ เคิร์สตี บอร์ทอฟต์ ก็ลืมตาขึ้นและขยับร่างกายของตัวเอง ท่ามกลางความตกใจของทุกคน
หลังจาก "เสียชีวิตและกลับมามีชีวิตอีกครั้ง" เคิร์สตีได้เล่าถึงสิ่งที่เธอเห็นและได้ยินในช่วงโคม่าลึกๆ โดยอ้างว่าในตอนนั้นเธอรู้สึกว่าร่างกายลอยได้ และพบกับ "เพื่อนที่มีพลังจิต" ซึ่งขอให้เธอเขียนข้อความสุดท้ายถึงลูกๆ และคู่หมั้นของเธอ ตัวเธอเองก็รู้ดีว่าคงไม่สามารถกลับมาได้แล้ว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่พูดว่า "เจ้าจะไม่ตาย ภารกิจของเจ้ายังไม่จบ" หลังจบประโยคนั้นเธอก็หลุดพ้นจากความรู้สึกลอยๆ และกลับคืนสู่ร่างของตนเอง
- แม่ใจหล่น ลูกรถคว่ำหมอบอกไม่รอด จู่ๆ ฟื้นทำตัวแปลก แถมพระทัก "ตายแล้ว" ทั้งที่ไม่เคยเจอ
- ขนหัวลุก ผียายเฮี้ยนเคาะโลง ลูกใจกล้าเปิดพิสูจน์ เจอนอนอ้าปากหอบ อึ้ง ยังไม่ตาย?
ทั้งนี้ ตามรายงานระบุด้วยว่า เคิร์สตีเคยพาลูกๆ ของเธอไปอาศัยอยู่บนภูเขาของสเปนเมื่อปี 2554 และได้บวชเป็นพระภิกษุในปี 2558 โดยเธอยังคงติดต่อกับกลุ่มฝึกสมาธิ ดังนั้น เธอจึงเชื่อว่าสามารถเร่งกระบวนการรักษาให้เร็วขึ้นได้ด้วยการทำสมาธิ
“ทุกๆ วัน ฉันจะนั่งสมาธิและจินตนาการถึงแสงสีทองสีขาวที่ส่องผ่านเซลล์ในร่างกายของฉัน ผู้คนจะหัวเราะเมื่อฉันพูดว่า 'ฉันรู้ว่าฉันอาจจะเพิ่งมีประสบการณ์ใกล้ตาย แต่ฉันยังแข็งแรงและมีสุขภาพดี' ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่” เคิร์สตี บอร์ทอฟต์ เล่า
ต่อมา 10 วันหลังจากฟื้นคืนสติ เคิร์สตีได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ซึ่งผลเอ็กซเรย์ทรวงอกพบว่า แผลเป็นและการกักเก็บของเหลวเกือบหายไปอย่างหาเหตุผลไม่ได้ ส่งผลให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ตกตะลึงสุดขีด
“ปอดของฉันถูกเอ็กซเรย์ และผู้ถ่ายภาพรังสีก็ยืนตกตะลึง เขาขออนุญาตจากฉันเพื่อแสดงผลลัพธ์ให้ทีมของเขาดู และเขาก็รู้สึกงุนงงมาก เนื่องจากรอยแผลเป็นและน้ำหายไปแล้ว และเขาก็ถามว่าฉันรักษาปลอดได้อย่างไร ฉันก็เลยเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง ฉันรู้สึกดีใจและตื่นเต้นกับการฟื้นตัว” เคิร์สตี บอร์ทอฟต์ เล่า
เคิร์สตีรู้สึกมีความสุขและตื่นเต้น ขณะแบ่งปันเกี่ยวกับประสบการณ์อัศจรรย์นี้ เธอกล่าวว่า "ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้รับโอกาสในการมีชีวิตอีกครั้ง"