บึ้มมูลนิธิรัฐบุรุษห่างบ้านป๋าเปรม100 ม.

บึ้มมูลนิธิรัฐบุรุษห่างบ้านป๋าเปรม100 ม.

บึ้มมูลนิธิรัฐบุรุษห่างบ้านป๋าเปรม100 ม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มือมืดป่วนอีก ปาบึ้มหน้ามูลนิธิรัฐบุรุษ ห่างบ้าน พล.อ.เปรม 100 เมตร ทำหม้อแปลงไฟฟ้าเสียหาย ขณะที่พยานอ้างเห็นผู้ต้องสงสัยขับรถ จยย. 2 คัน มาก่อเหตุก่อนเผ่นหนี ขณะที่อีกจุดคนร้าย ปาระเบิดใกล้ป้ายรถเมล์ที่ท้องสนามหลวง ไร้เจ็บ

พ.ต.ท.โอภาส หาญณรงค์ รองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.สามเสน รับแจ้งเหตุระเบิดภายในมูลนิธิรัฐบุรุษ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ส่งผลให้หม้อแปลงที่อยู่ภายในรั้วมูลนิธิได้รับ ความเสียหาย แต่ในเบื้องต้น ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำหรับจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านพักของ พล.อ.เปรม เพียง 100 เมตรเท่านั้น

ซึ่งประชาชนที่เหตุการณ์ อ้างว่าก่อนเกิดเหตุมีคนขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน มาจากถนนอู่ทองใน มุ่งหน้าไปยังมูลนิธิรัฐบุรุษ จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ได้ขับมุ่งหน้าไปทางถนนอู่ทองนอก อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบกระเดื่องตกอยู่ 1 ชิ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด

ด้าน พล.อ.สัญฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยกล้องวงจรปิดจับภาพรถต้องสงสัยปาบึ้มมูลนิธิรัฐบุรุษได้ ส่วนระเบิดที่ใช้เป็นชนิด M-67 และ มีรถชาวบ้านได้รับความเสียหาย 1 คัน

ทางด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ในฐานะโฆษก ศอ.รส. เปิดเผยเช่นกัน โดยยอมรับว่ามีรายงานแจ้งให้ทราบแล้วว่า มีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นจริงที่บริเวณ มูลนิธิรัฐบุรุษ ใกล้มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา ซึ่งเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอยู่แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นวัตถุชนิดใดที่ใช้ก่อเหตุ

ขณะที่ พ.ต.ท. สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สารวัตรสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่บริเวณใกล้ป้ายรถเมล์ที่ท้องสนามหลวง จากการเข้าตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นระเบิดปิงปอง และไม่มีความเสียหายใดๆ และไม่มีผู้ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปิดล้อมสถานที่ เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และจากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ในเบื้องต้นทราบว่า ระหว่างที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขับรถจักรยานยนต์ มาชะลอความเร็วบริเวณจุดที่เกิดเหตุ และปาระเบิดปิงปองลงมาก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปในทันที ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งตรวจสอบภาพวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายเพิ่มเติมต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook