ทำความรู้จัก "วาฬโอมูระ" สัตว์หายากที่ชีวิตเต็มไปด้วยปริศนา
กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก หลังมีผู้โชคดีได้พบเจอกับ “วาฬโอมูระเผือก” ที่หายากแบบสุดๆ ในกลางทะเลภูเก็ตของประเทศไทย ถือเป็นรายงานการพบเจอวาฬโอมูระเผือกของโลกเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ วาฬโอมูระถือเป็นวาฬหายากของโลกและเป็นสิ่งทีชีวิตที่ยังเต็มไปด้วยปริศนา Sanook จึงขอทำหน้าที่พาทุกคนไปทำความรู้จัก “วาฬโอมูระ” วาฬชนิดใหม่ที่โลกเพิ่งรู้จักเมื่อไม่นานมานี้
- วาฬโอมูระเผือก โผล่ทะเลภูเก็ต ผู้เชี่ยวชาญคาดเป็นตัวแรกของโลก หายากยิ่งกว่ายาก
- "วาฬหายาก" เกยตื้นพร้อมแผลฉกรรจ์ คาดถูกใบพัดเรือฟัน ยื้อไม่ไหว ตายคาหาด
“วาฬโอมูระ” คืออะไร
วาฬโอมูระ (Omura’s whale) คือวาฬสายพันธุ์หายาก มีลักษณะคล้ายคลึงกับวาฬบรูด้า ถูกค้นพบครั้งแรกจากซากของมัน ในปี 2003 โดยวาฬโอมูระถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (mammals) ที่อาศัยอยู่ในทะเล ตัวเต็มวัยเพศเมียจะมีขนาด 10 - 11.5 เมตร ขณะที่เพศผู้จะมีขนาด 9.6 - 10 เมตร และมีน้ำหนักไม่เกิน 20 ตัน
วาฬโอมูระมีลักษณะคล้ายคลึงกับวาฬบรูด้าก็จริง แต่เมื่อพิจารณาจากซากของมันแล้ว จึงพบว่ามีความแตกต่างกัน โดยวาฬโอมูระมีขนาดเล็กกว่า รอยจีบใต้ลำคอมีจำนวนมากกว่า คือประมาณ 80 - 90 รอยจีบ มีครีบหลังที่สูงกว่า และมีความโค้งน้อยกว่าวาฬบรูด้า และวาฬโฮมูระก็มีสันบริเวณตรงกลางส่วนหัว 1 สัน ขณะที่วาฬบรูด้ามี 3 สัน
ชีวิตที่เป็นปริศนาของ “วาฬโอมูระ”
เนื่องจากวาฬโอมูระเป็นวาฬที่พบได้ยาก นักวิทยาศาสตร์จึงยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่แน่นอนของพวกมัน แต่มักจะพบวาฬโอมูระเข้ามาหากินใกล้ชายฝั่งในทะเลเขตร้อนถึงเขตอบอุ่น ไม่ได้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน แต่ไม่ได้แยกขาดกันอย่างเป็นเอกเทศ กล่าวคือ วาฬโอมูระจะอยู่ใกล้กันเป็นกลุ่มหลวมๆ กลุ่มละประมาณ 6 ตัว พอให้ได้ยินเสียงสัญญาณที่จะสื่อสารถึงกัน
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า วาฬโอมูระเป็นสัตว์ที่มีถิ่นที่อยู่เดียว ไม่มีการย้ายถิ่นตามฤดูกาลเหมือนวาฬชนิดอื่นๆ
“วาฬโอมูระ” ในประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย มีรายงานพบวาฬโอมูระทั้งในฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน โดยประเทศไทยได้ประกาศให้วาฬโอมูระเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562