ศอ.รส.เผยบึ้มมูลนิธิรัฐบุรุษเหตุสุดวิสัย

ศอ.รส.เผยบึ้มมูลนิธิรัฐบุรุษเหตุสุดวิสัย

ศอ.รส.เผยบึ้มมูลนิธิรัฐบุรุษเหตุสุดวิสัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศอ.รส. เผย ผลประชุม ชี้ คดีระเบิดที่มูลนิธิรัฐบุรุษ เป็นเหตุสุดวิสัย ยากป้องกัน ขณะ ผบ.ทบ. เสนอให้เข้มข้นขึ้น ส่วน จปร.20 เอี่ยวหรือไม่ ยังไม่มีข้อมูล

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. เปิดเผย ผลการประชุมช่วงเช้า ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส. เป็นประธานการประชุมว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำภาพคนร้ายลอบปาระเบิด ที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาเปิดให้ที่ประชุมดูเพื่อให้เห็นว่า เป็นเหตุสุดวิสัย ยากต่อการป้องกัน คนร้าย ไม่ต้องเตรียมการก็สามารถก่อเหตุได้ ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เสนอแนะให้ผู้บังคับหน่วย กำหนดมาตรการให้มีกำลังพล 1 คนคอยตรวจตราถนนหนทางอยู่ตลอดเวลา ส่วนกรณีที่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้น 20 กว่าครั้ง ที่ผ่านมา มีส่วนเกี่ยวข้องกับ จปร.รุ่น 20 หรือไม่ นั้น โฆษก ศอ.รส. กล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่ทราบข้อมูล อีกทั้งในที่ประชุม ศอ.รส. ก็ไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และอาจเป็นข้อมูลของเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนทางการข่าวก็เป็นได้

ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยความคืบหน้า เหตุคนร้ายลอบปาระเบิดในมูลนิธิรัฐบุรุษกลางดึกวานนี้ว่า เบื้องต้น จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้ทราบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ซึ่งก่อนการก่อเหตุพบว่า คนร้ายมีจำนวน 2 คน สวมหมวกกันน็อกใช้รถ จยย.แบบผู้หญิงเป็นยานพาหนะ โดยใช้ถนนราชสีมา เป็นเส้นทางก่อเหตุ แต่หลังจากก่อเหตุแล้ว ได้หลบหนีไปตามซอยแถวละแวกนั้น ก่อนจะเข้าไปทางถนนอู่ทองใน กระทั้งหลบหนีออกทางท่าเรือ วาสุกรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามแยกต่างๆ และเทียบเคียงกับกล้องวงจรปิดของสถานี โทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ด้วย เพราะคาดว่า คนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันเนื่องจากลักษณะหมวกกันน็อกเหมือนกับคนร้าย ที่ก่อเหตุปาระเบิด บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 5

ทั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยืนยันว่า รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ได้ทำหน้าที่อย่าง เต็มที่ โดยไม่ย่อหย่อนพร้อมทั้งย้ำว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พยายามประชุมเร่งรัดคดี และให้เฝ้าระวังจุดเสี่ยงที่เป็น สัญลักษณ์ทางการเมือง แต่คนร้ายอาศัยช่องว่างของเจ้าหน้าที่ในการก่อเหตุ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook