ชี้แจงแล้ว ดราม่าแมวคณบดีกินไฟหลวง เปิดแอร์ฉ่ำๆ ความจริงทำชาวเน็ตใจฟู
ชี้แจงแล้ว ดราม่าคณบดีสาวขนแมวมาเลี้ยง กินไฟหลวง เปิดแอร์นอนฉ่ำๆ ความจริงทำชาวเน็ตใจฟู ขอความเป็นธรรมให้แก๊งน้องเปรอะด้วย
จากกรณีเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน โพสต์รูปภาพและข้อความว่า
"เอาแมวมากินไฟหลวง หัวจะปวด เหตุเกิดที่คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์เทเวศร์ คณบดีฯสาว ได้ขนแมวของตัวเอง 4 ตัว ไปเลี้ยงให้กินนอนอยู่หน้าห้องตัวเองชั้น 3 แล้วให้เลขาฯ คอยดูแล ต่อมาก็สั่งย้ายฝ่ายประชาสัมพันธ์ขึ้นไปไว้หน้าห้องตัวเอง อยู่กันจำกัดจำเขี่ยในพื้นที่คับแคบ แล้วย้ายแมวไปไว้ที่ห้องประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 โอ่โถงกว้างขวาง เปิดไฟเปิดแอร์ฉ่ำ ๆ ให้แมวทั้งวันทั้งคืน ปิดล็อคประตูด้านหน้าห้ามใครเข้าใช้ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลตึก คนหลวง คอยดูแลให้อาหาร เก็บอึเก็บฉี่ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ จากเจ้าหน้าที่ตึกก็กลายเป็นสมุนแมวที่แท้ทรูใด ๆ เรื่องนี้แมวไม่ผิด น้องเปรอะสามสี น้องดำควรยึดเข้าเพจ"
เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิชชพร เทียบจัตุรัส คณบดีคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ผศ.ดร.วิชชพร บอกว่า แมวทั้ง 4 ตัวนั้น เป็นแมวจร อยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการ ขณะกลับจากราชการที่นั่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้มาขอให้ช่วยรับลูกแมวจร ที่ถูกคลอดทิ้งไว้ไปดูแล ซึ่งขณะนั้นแมวยังตัวเล็ก ลืมตายังไม่ได้ เกรงว่าสัตว์เลื้อยคลานจะมากินลูกแมว เจ้าหน้าที่คณะสงสาร จึงยกลังลูกแมวขึ้นไปไว้บนรถ ทั้งที่ตนเองก็ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะรับไปดูแล
ช่วงแรกที่แมวยังตัวเล็กๆ เจ้าหน้าที่ก็จะสลับกันดูแลที่คณะและเลี้ยงที่บ้านสลับกันไป ต่อมา เกรงว่า งูเหลือมยาว 3-4 เมตรในคณะจะเลื้อยมากินลูกแมว จึงนำไปเลี้ยงที่ห้องประชาสัมพันธ์ชั้น 1 ของคณะ ซึ่งเป็นห้องที่ปิดไว้ อยู่ระหว่างรองบประมาณปรับปรุง เพื่อทำเป็นห้องคอมมอนสเปซ หรือห้องทำกิจกรรมของนักศึกษา
ส่วนข้อกล่าวหาว่า นำแมวมาเลี้ยงที่ห้องประชาสัมพันธ์ แล้วย้ายเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ไปอยู่หน้าห้องคณบดีฯ ข้อมูลไม่ถูกต้อง เพราะหลังจากมีแผนปรับปรุงเป็นห้องกิจกรรมนักศึกษา ก็ย้ายเจ้าหน้าที่ไปอยู่รวมกับสำนักงานคณบดี ที่ชั้น 3 หลายเดือนแล้ว ก่อนที่จะนำแมวมาไว้ในนี้
ส่วนข้อกล่าวหา ใช้ไฟหลวง เปิดไฟเปิดแอร์ให้แมว ทั้งวันทั้งคืนก็ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ห้องได้ปิดไว้ มีเพียงเจ้าหน้าที่จะสลับกัน นำน้ำและอาหารไปให้แมวเท่านั้น ส่วนเรื่องอึและฉี่แมว เจ้าหน้าที่คณะ คนที่รักแมว ก็สลับกันไปดูแล ไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใด
ผศ.ดร.วิชชพร กล่าวด้วยว่า ในความเป็นจริง มีนักศึกษาจะขอรับแมวตัวผู้ 2 ตัว และตัวเมีย 2 ตัว ไปเลี้ยง แต่เห็นว่า รอให้ทำหมันแมวตัวเมียให้เรียบร้อยก่อน จึงจะให้นำไปเลี้ยงได้ พร้อมย้ำว่า แมวทั้ง 4 ตัว ไม่ใช่แมวของตนเอง แต่เป็นหนึ่งในคนรักแมว และเจ้าหน้าที่สงสารอยากช่วยมาดูแล ส่วนที่เพจดังโพสต์รับทราบเรื่องแล้ว เตรียมรวบรวมข้อเท็จจริงจากทุกด้าน ภายใน 2 วัน สรุปเรื่องทั้งหมดที่เป็นข่าวต่อไป