หัวหน้า รปภ. เดือด บุกยิงผู้จัดการ รองผู้จัดการ ครูฝึกการ์ด ดับ 3 ศพคาโรงไฟฟ้า
หัวหน้า รปภ. เดือด บุกยิงผู้จัดการ รองผู้จัดการ ครูฝึกการ์ด ดับ 3 ศพคาโรงไฟฟ้าราชบุรี คาดไม่พอใจเรื่องงาน
(13 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุสลดยิงกันตายและบาดเจ็บหลายรายในขณะปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.4 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวกราชบุรี ส่วนคนร้ายหลบหนี โดยเมื่อเวลา 20.00 น.โดยประมาณ วันที่ 12 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา
ร.ต.อไพรวัลย์ ปี่แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันภายใน ที่บริเวณในโรงไฟฟ้าราชบุรี ที่ประตู 3 หรือ ประตู B ม.4 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี จึงได้รายงานให้ พล.ต.ตรี วชิราพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ราชบุรี พ.ต.อ.นนท์ ภักดีพันธ์ ผกก.สภ.ดำเนินสะดวกได้รับทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลดำเนินสะดวก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรี
จากการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เป็นชาย 3 ราย ทราบชื่อต่อมา รายที่ 1 คือ นายพิเชษฐ์ อายุประมาณ 55 ปี ตำแหน่ง ผู้จัดการของบริษัทรักษาความปลอดภัย นอนเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้า จากการวิ่งหลบหลังคนร้ายใช้ปืนยิงเข้าที่ลำตัว เข้ามาเสียชีวิตภายในห้องพักระหว่างงาน
รายที่ 2 คือ นายชนรพ อายุประมาณ 50 ปี เป็นรองผู้จัดการบริษัทรักษาความปลอดภัย นอนเสียชีวิตจมกองเลือดในลักษณะนอนหงายถูกยิงระยะเผาขนกระสุนเข้าที่ศีรษะ และลำตัว โดนจุดสำคัญเสียชีวิตทันที ภายในห้องปฏิบัติงานในมือยังถือปากกา และข้างศพพบแฟ้มเขียนบันทึกรถเข้าออก
และ รายที่ 3 คือ นายชาคริต อายุ 52 ปี เป็นครูฝึกการ์ด ของ บริษัทรักษาความปลอดภัย นอนตายจมกองเลือด ในลักษณะนอนหงายถูกยิงในขณะเข้าล็อกตัวหลังจากคนร้ายก่อเหตุแต่ถูกพลาดท่า ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนในมือยิงเข้าที่ศีรษะและใบหน้าเสียชีวิตทันที่ตรงบริเวณประตูกันทางเข้าภายในโรงไฟฟ้าราชบุรี
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสาธิต อายุประมาณ 50 ปี เป็นพนักงานของบริษัทรักษาความปลอดภัย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลดำเนินสะดวก โดยถูกยิงเข้าที่ใบหน้า และ ลำตัว แพทย์ได้ทำการรักษาและยื้อชีวิต เบื้องต้นทราบว่าพื้นขีดอันตรายแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายบุญเลิศ เป็นหัวหน้าชุด รปภ. ของบริษัทรักษาความปลอดภัยเดิม ที่เคยทำงานในโรงไฟฟ้าราชบุรี 2 แห่งนี้ แต่ต่อมาทางโรงไฟฟ้าราชบุรี ได้ว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยอีกแห่งเข้ามาให้ช่วยดูแลพื้นที่รอบโรงไฟฟ้ โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ม.ค.67 เวลาประมาณ 17.00 น. ทั้งสองบริษัทได้มีการประชุมพูดคุยกันถึงเรื่องของความรับผิดชอบพื้นที่ ปรากฎว่ามีการลดบทบาทหน้าที่ของบริษัทผู้ก่อเหตุลง ทำให้ผู้ก่อเหตุนั้นเกิดความไม่พอใจ จึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. กระหน่ำ ยิงนายพิเชษฐ์ ผู้จัดการของบริษัทรักษาความปลอดภัยเจ้าใหม่ ก่อนทำให้นายพิเชษฐ์วิ่งหนีไปหลบภายในห้องระหว่างพักของ รปภ. และฟุบลงนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนนายชาคริต ซึ่งเป็นครูฝึกเห็นนายบุญเลิศ ใช้อาวุธปืนยิงนายพิเชษฐ์ จึงได้กระโดดรัดคอมือปืนและเกิดการต่อสู้กันซึ่งนายชาคริตพยายามแย่งปืนในมือของผู้ก่อเหตุ แต่พลาดท่าถูกนายมือปืนจ่อยิงเข้าที่ศีรษะและใบหน้า จากนั้นมือปืนก็เดินไปตามหานายพิเชษฐ์ที่ถูกยิงไปก่อนหน้านี้ ก็ไปพบกับ นายชนรพ รองผู้จัดการที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ภายในห้องปฏิบัติงาน นายบุญเลิศได้ใช้ปืนที่ก่อเหตุยิงเข้าที่ศีรษะและใบหน้าในระยะเผาขนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 3 ศพ
และนายบุญเลิศได้หันปากกระบอกปืนไปยิงนายสาธิต กระสุนเข้าที่ใบหน้าทะลุแก้ม และถูกยิงเข้าที่ลำตัวก่อนจะหลบได้ทัน หลังก่อเหตุ นายบุญเลิศ มือปืนผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถกระบะ Toyota Revo สีขาว หมายเลขทะเบียน บว 8666 ราชบุรี หลบหนีไปกับลูกน้อง โดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่พยายามสกัดไล่จับกุม สุดท้ายนายบุญเลิศ ได้ยอมมอบตัว ในระหว่างหลบหนี้ที่จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ดำเนินสะดวกทันที ส่วนลูกน้องของนายบุญเลิศได้กันตัวไว้เป็นพยาน