เปิดไทม์ไลน์ พลิกคดี "ป้าบัวผัน" สังคมเอะใจจับผัวเป็นแพะ สู่หลักฐานโยงฆาตกรตัวจริง!
สรุปเหตุการณ์ คดีสะเทือนขวัญ "ป้าบัวผัน" หญิงสติไม่ดีกลายเป็นศพ สังคมเอะใจจับผัวเป็นแพะ ก่อนหลักฐานโผล่โยงแก๊ง "เยาวชน" ฆาตกรตัวจริง แถมมีลูกชายนายตำรวจ
กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่คนไทยกำลังจับตามอง กรณีพบศพหญิงวัยกลางคนสติไม่สมประกอบ ทราบชื่อ “ป้าบัวผัน” หรือ “ป้ากบ” ที่ถูกฆ่าทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว จนนำไปสู่การ จับกุมสามีของผู้ตาย ซึ่งสามีของผู้ตายได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายป้าบัวผันจนเสียชีวิต ทั้งยังมีการคุมตัวไปสอบสวนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และฝากขังตามกฎหมาย
กระทั่งเกิดเหตุ “คดีพลิก” เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนจับพิรุธสามีผู้ตายสารภาพ โดยมีการเล่าเป็นฉากๆ ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ หลังพบกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นว่าลุงเปี๊ยกไม่ใช่ผู้ต้องหา ทำให้สังคมเกิดความสงสัยว่าเป็นการ “จับแพะ” ในคดีนี้ สู่การพบหลักฐานว่าเยาวชนอายุ 13-16 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ และหนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็นลูกของตำรวจระดับรองสารวัตรสืบสวนในพื้นที่
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมเป็นอย่างมาก พร้อมทำให้ชาวเน็ตถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเอาผิดกับเยาวชนอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ทางสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ได้สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งความคืบหน้าของเหตุการณ์นี้มีอะไรบ้าง
ป้าบัวผัน หรือ ป้ากบ คือใคร?
ป้าบัวผัน หรือ ป้ากบ ชื่อจริง น.ส.บัวผัน ตันสุ อายุ 47 ปี หญิงวัยกลางคนสติไม่สมประกอบที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ฆ่าทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนในพื้นที่ จ.สระแก้ว คนในพื้นที่ต่างพูดถึงป้าบัวผันเป็นเสียงเดียวกันว่าแม้ป้าบัวผันจะเป็นคนสติไม่ดี และเร่ร่อน แต่ป้าบัวผันก็ไม่เคยทำร้ายใคร
กระทั่งวันที่ 12 มกราคม 2567 ทางตำรวจภูธรอรัญประเทศ ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดี ว่าพบศพหญิงคนหนึ่งอยู่ภายในสระน้ำข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ทำการพิสูจน์พลิกศพ จึงพบว่ามีร่องรอยถูกคนร้ายฆ่าทุบศีรษะและใบหน้าสภาพเละ และทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ ป้าบัวผัน หรือ ป้ากบ หญิงวัย 47 ปี ซึ่งคนในพื้นที่รู้จักว่าเป็นหญิงสติไม่ดีและชอบดื่มเหล้าเดินไปมาอยู่ในละแวกนั้น
ลุงเปี๊ยก สามีที่อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่า ป้าบัวผัน หรือ ป้ากบ เข้ามอบตัว
ภายหลังจากพบศพป้าบัวผัน ลุงเปี๊ยก หรือ นายปัญญา คงแสนคำ ชายวัย 54 ปี สามีของผู้เสียชีวิต ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายป้าบัวผัน จนเสียชีวิต โดยเอาเก้าอี้ฟาดศีรษะถึงแก่ความตายแล้วเอาศพไปทิ้งบ่อน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งดำเนินคดีไปยังศาลจังหวัดสระแก้ว และนำตัวไปฝากขังตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวที่ลงพื้นที่ว่าคำให้การของลุงเปี๊ยกมีพิรุธหลายจุด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา พร้อมดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติม
คดีพลิก! พบกลุ่มวัยรุ่น 5 คน เป็นคนลงมือก่อเหตุ
กระทั่งเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า “คดีพลิก” หลังนักข่าวช่อง 8 พบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ตามจุดต่าง ๆ ตามคำให้การของลุงเปี๊ยก โดยมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายจุด ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม (เวลา 06.00 น.) และวันที่ 12 มกราคม ปรากฏว่าไม่พบภาพของลุงเปี๊ยก แต่ภาพวงจรปิดกลับพบกลุ่มวัยรุ่น 5 คน กำลังรุมทำร้ายป้าบัวผัน จึงนำหลักฐานไปมอบให้ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหาตัวจริง
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 12 มกราคม 2567 ป้าบัวผัน นั่งอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาอรัญประเทศ (สระแก้ว) ภายในซอยบำรุงราษฎร์ เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ปรากฏว่ามีกลุ่มวัยรุ่น 5 คนขับขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน เข้าไปเต้นยั่วยุให้ป้าบัวผันโกรธ ป้าบัวผันจึงปาขวดน้ำใส่กลุ่มวัยรุ่น เกิดการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น มีการฉุดกระชากเหยื่อขึ้นรถจักรยานยนต์ และได้ขับรถจักรยานยนต์ดังกล่าวมุ่งหน้าไปทางจุดทิ้งศพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเป็นผู้ก่อเหตุ
เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน วัยรุ่นผู้ก่อเหตุทั้งหมดสารภาพว่าเป็นคนทำร้ายป้าบัวผันจริง โดยคืนเกิดเหตุ กลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุได้เข้าไปแหย่ป้าบัวผันจนเธอรำคาญ โวยวาย และปาขวดใส่กลุ่มวัยรุ่น ทำให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่พอใจ และได้เข้าทำร้ายร่างกายจนป้าบัวผันเสียชีวิตในที่สุด ทั้งนี้ วัยรุ่นทั้ง 5 คนให้การว่าที่ทำไปเพราะตามเพื่อน
อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยถึงพฤติกรรมของวัยรุ่นกลุ่มนี้ ว่าเป็นกลุ่มที่มักมารวมตัวกันสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านในเวลากลางคืน และมักถืออาวุธไล่ทำร้ายกัน รวมทั้งยังเคยขู่ว่าจะไปเผาร้านของชาวบ้านอีกด้วย ขณะที่ชาวบ้านบางคนบอกว่า นอกจากก่อความเดือดร้อนรำคาญแล้ว เด็กกลุ่มนี้ก็มีวีรกรรมขโมยของ และบางครั้งก็ยังมีการพูดจาข่มขู่ชาวบ้าน หลังเกิดเรื่องแบบนี้ก็อยากให้กลับมาพิจารณาปรับโทษคดีเกี่ยวกับเยาวชนให้รุนแรงขึ้น
สำหรับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุประกอบด้วย ด.ช.แบงค์ อายุ 13 ปี, ด.ช.กั๊ด อายุ 13 ปี, ด.ช.โก๊ะ อายุ 14 ปี, นายบิ๊ก อายุ 16 ปี และ ด.ช.เชน อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ลุงเปี๊ยก “แพะรับบาป” ถูกปล่อยตัว
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำตัวนายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสระแก้ว หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และศาลจังหวัดสระแก้วอนุญาตให้ฝากขังผัดแรก ที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าผ่านไป 3 วัน เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 ลุงเปี๊ยกถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำหลังตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว
ลุงเปี๊ยกได้ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ยอมรับสารภาพ เนื่องจากหลังพบศพภรรยาชาวบ้านต่างก็กล่าวหาว่าตนเป็นคนทำร้ายภรรยาเสียชีวิต อ้างว่าการรับสารภาพก็เพื่อตัดปัญหา จากนั้น ตำรวจได้นำตัวลุงเปี๊ยก มาที่ห้องสอบสวนของสถานีตำรวจนานหลายชั่วโมง ก่อนจะนำตัวลุงเปี๊ยกออกจากห้องสอบสวนขึ้นรถกระบะ คาดว่าตำรวจนำตัวลุงเปี๊ยกไปไว้ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง
ในขณะที่ญาติของป้าบัวผันที่เดินทางมาจาก ต.หนองน้ำใส อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มาที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะทางญาติกลัวว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะว่าเยาวชนผู้ก่อเหตุเป็นลูกหลานตำรวจ ทั้งนี้ ครอบครัวผู้ตายจะได้รับเงินเยียวยาจากกองทุนผู้เสียหายในคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรมจำนวนหนึ่ง ส่วนศพของป้าบัวผันจะยังไม่มีการทำพิธีฌาปนกิจจนกว่าคดีจะคลี่คลาย
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ