ผลสอบ 2 ตำรวจอรัญประเทศ ผิดวินัย-ม.157 ปมบีบ “ลุงเปี๊ยก” ให้สารภาพคดีฆ่าป้ากบ
ผบช.ภ.2 ระบุ ตร.สภ.อรัญประเทศ 1 นายผิด ม.157 ส่วนอีกนาย ผิดวินัยตำรวจ ปมถุงดำคลุมหัว “ลุงเปี๊ยก”บีบให้สารภาพคดีฆ่าป้ากบ – รอสอบ ความผิด พ.ร.บ.การทรมาน
วันนี้ (20 ม.ค.67) พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) แถลงความคืบหน้าคดีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีคลิปเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ มีการบังคับขู่เข็ญ ให้นายปัญญา คงแสนคำ รับสารภาพในคดีฆาตกรรมนางสาวบัวผัน หรือ ป้ากบ หลังจาก พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้เวลา 3 วัน
พล.ต.ท.สมประสงค์ เผยว่า ภายหลังจากตั้งคณะกรรมการสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ข้อสรุปว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย โดยตร.คนแรกมีความผิดตามมาตรา 157 ส่วนคนที่สองมีความผิดฐาน พ.ร.บ.การทรมาน จึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการเอาผิดทางวินัยและอาญา ส่วนการสอบสวนตำรวจทั้ง 2 เบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธในการใช้ถุงดำคลุมลุงเปี๊ยก แต่ชุดคณะกรรมการสอบสวนเชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอชี้ได้ว่า ตำรวจสภ.อรัญประเทศ ใช้ถุงคลุมหัวลุงเปี๊ยกจริง
ส่วนข้อหาพ.ร.บ.การทรมาน ขณะนี้ลุงเปี๊ยกยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ หลังเข้ารับการรักษาโรคสุราเรื้อรัง ต้องรอประมาณ 7 วัน นับจากวันเข้ารับการรักษา พนักงานสอบสวนถึงจะเข้าไปสอบปากคำลุงเปี๊ยกเพิ่มเติมได้ และจะสามารถแจ้งดำเนินการเอาผิดตามพ.ร.บ.การทรมานกับตร.ทั้ง2
พล.ต.ท.สมประสงค์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในคดี 5 เยาวชนลูกตำรวจ ขณะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว , ตำรวจ และ 5 สหวิชาชีพเข้าร่วม เป็นคณะกรรมการในการพิจารณาเอาผิดผู้ปกครองเยาวชนทั้ง 5 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามประชาชนว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างไรบ้างเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว และได้เตือนผู้ปกครองเยาวชนทุกคน ให้ช่วยกันดูแลบทหลานของท่าน มิให้ออกมาก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะหลังเวลา 22.00 น. หากหลังจากนี้พบว่ามีเยาวชนออกนอกเกินเวลาดังกล่าว ก็จะเรียกผู้ปกครองมารับทราบข้อกล่าวหาหารปล่อยปะละเลย
ส่วนคดีของป้าบัวผัน พนักงานสอบสวนสามารถทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ กลุ่มลูกตำรวจ 5 คน มีคดีค้างเก่า 4 คดี ได้แก่ คดีทำร้ายร่างกาย , ล่วงละเมิดทางเพศ (นายโก๊ะ 4 คดี นายเชน 2 คดี) และกลุ่มที่สองคือ กลุ่มตังค์ไม่ออก 12 คน มีคดีค้างเก่า 2 คดี คือคดี ทำร้ายร่างกายจนถึงเสียชีวิต , คดีทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สิน (เผารถ)
เบื้องต้น ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ทำการกวาดล้างปิดเมือง ติดตามตัวกรมแก๊งตังค์ไม่ออก เพื่อทำการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานในการติดตามตัวมาดำเนินการเอาผิด แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีผู้เข้ามาแจ้งความหรือร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงจะสามารถตรวจสอบและแจ้งข้อกล่าวหากลุ่มเยาวชนดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภูธรภาค 2 ว่า สามารถจะดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิดได้ทุกราย